กองกำลังรักษาความปลอดภัยของพม่า ได้สังหารผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อเหตุไม่สงบแล้วอย่างน้อย 26 ราย ในปฏิบัติการตอบโต้การโจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งยกระดับความรุนแรงในพื้นที่ตามแนวชายแดนติดกับบังกลาเทศ ที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ผู้เห็นเหตุการณ์ระบุบางคนถูกทหารไล่ยิงทั้งที่ไม่มีอาวุธ
สื่อทางการระบุว่าเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจสนธิกำลังลงพื้นที่เมืองหม่องดอ รัฐยะไข่ ทางภาคเหนือของประเทศ และได้ปะทะกันกับกลุ่มชายมากถึง 300 คน ที่ใช้ปืน ดาบ และมีดเป็นอาวุธ
กลุ่มสิทธิมนุษยชน ได้แสดงความวิตกกังวลว่า พลเรือนอาจติดอยู่ท่ามกลางการตอบโต้รุนแรงของทางการ
นางอองซานซูจี กล่าวว่า รัฐบาลดำเนินการตามกฎหมายในการจัดการต่อเหตุโจมตีที่เกิดขึ้น หนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไลท์ ออฟ เมียนมาร์ รายงานวันนี้ (13) แต่อย่างไรก็ตาม ทางการยังไม่ได้ยืนยันว่าใครคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตี
ส่วนหนังสือพิมพ์เมียวดี ของกองทัพ ระบุว่า ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีเสียชีวิตเพิ่มอีก 10 คน และสามารถยึดปืนไรเฟิลได้ 1 กระบอก จากการปะทะในเช้าวันอังคาร (11) และในอีกเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นในวันพุธ (12) ทหารกล่าวหาผู้ก่อเหตุไม่สงบได้วางเพลิงเผาบ้าน 25 หลัง หลังยกเลิกการโจมตีย่านตำรวจในหมู่บ้านจีกันเปง ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดโจมตีเมื่อวันอาทิตย์
จากเหตุปะทะกันต่อเนื่องตั้งแต่วันอาทิตย์ ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตในรัฐยะไข่ เพิ่มขึ้นเป็น 39 ราย โดยเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 13 นาย ส่วนผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้โจมตีซึ่งเสียชีวิตไป 26 รายนั้น ชาวบ้านในพื้นที่เผยต่อรอยเตอร์ว่า บางคนถูกยิงโดยไม่มีอาวุธ และกำลังหลบหนีทหาร
กลุ่มรณรงค์ Fortify Rights ระบุเมื่อวันพุธ (12) ว่า กลุ่มได้รับรายงานเกี่ยวกับการวิสามัญฆาตกรรมในพื้นที่ และเรียกร้องให้รัฐบาลพม่าคุ้มครองพลเรือนไม่ว่าจะมีศาสนา หรือเชื้อชาติใดก็ตาม.