ผู้นำตุรกีเตือนอันตรายหลังกองกำลังติดอาวุธชีอะห์กำลังเคลื่อนเข้าสู้เมือง Tal Afar ในอิรัก ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศประกาศพร้อมทำทุกอย่างตามกฎหมายระหว่างประเทศหากกองกำลังชีอะห์ คุกคามความปลอดภัยของชาวเคิร์ดใน Tal Afar
เครือข่ายเฝ้าระวังตะวันออกกลาง รายงานว่าประธานาธิบดี รอยับ ตอยยิบ เออโดกัน กล่าวเมื่อวันเสาร์ถึงความกังวลเกี่ยวกับ กองกำลังติดอาวุธชีอะห์ที่กำลังมุ่งหน้าเข้าสู่เมือง Tal Afar ในจังหวัดโมซุล
ในระหว่างงานเลี้ยงวันชาติตุรกีเมื่อวันเสาร์ที่(29 ตุลาคม)ผ่านมาประธานาธิบดีได้เตือนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ถึงอันตรายของกองกำลังติดอาวุธชีอะห์ Hashd Al-shaabi ที่กำลังมุ่งหน้าเข้าสู่เมือง Tal Afar ว่า “Tal Afar เป็นปัญหาที่มีความสำคัญมากสำหรับเรา แน่นอนเราไม่ได้คิดว่ามัน [การมีส่วนร่วมของอาสาสมัครชีอะห์] จะเป็นไปในทางบวกใน Tal Afar และ Sinjar ฉันแล้วบอกเรื่องนี้กับเจ้าหน้าที่แล้ว”
เขาเสริมว่า “Tal Afar เป็นเมืองของชาว Turkmen โดยมีซุหนี่ และชีอะห์ อย่างละครึ่ง แต่เราไม่ได้ตัดสินคนจากศาสนาของพวกเขา เราคิดว่าพวกเขาทั้งหมดเป็นมุสลิม”
“แต่ถ้า Hashd Al-shaabi เข้าไปในเมืองดังกล่าวแล้ว พวกเขาคิดต่างจากเรา”
รัฐบาลตุรกีได้เตือนซ้ำ ๆ หลายครั้งเกี่ยวกับความเสี่ยงของความขัดแย้งทางศาสนาถ้ากองกำลังชีอะห์ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลอิรักให้เข้าสุ่เมืองที่มีชาวซุหนี่เป็นส่วนใหญ่อย่างโมซุล ด้วยข้ออ้างเรื่องการปลดปล่อยเมืองจากการยึดครองของดาอิช เช่นเดียวกับที่กองกำลังชีอะห์ที่เคยบุกเข้าสู่เมืองฟัลลูญะห์ และเมืองเราะห์มาดี ด้วยข้ออ้างเดียวกันนี่ ที่กองกำลังชีอะห์ได้กระทำการทารุณกรรมอย่างรุนแรงต่อพลเมืองชาวซุหนี่
ขณะที่เมื่อวันพุธที่(26 ตุลาคม)ผ่านมา Mevlut Cavusoglu รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศตุรกี ย้ำว่าตุรกีจะ “ใช้มาตรการทั้งหมดที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายต่างประเทศ” ถ้า Hashd Al-shaabi คุกคามความมั่นคงของชาวเติร์กใน Tal Afar
ชาวเติร์ก ถูกกดขี่มาตลอดนับตั้งแต่กลุ่มดาอิชเข้ายึดครองดินแดนดังกล่าวตั้งปี 2014 ทำให้จำนวนประชากรลดลงอย่างต่อเนื่อง จากครึ่งล้าน เหลือเพียงประมาณ 50,000 คนในขณะนี้