ตำรวจเปิดเผยว่า เรือสปีดโบ้ตที่บรรทุกคนงานชาวอินโดนีเซียกลับมาจากมาเลเซียได้ล่ม เพราะสภาพอากาศย่ำแย่ ทำให้เกรงว่าจะมีอย่างน้อย 20 รายจมน้ำเสียชีวิต
เรือที่มีผู้โดยสารทั้งหมดประมาณ 90 คน ได้ล่มบริเวณนอกชายฝั่งของเกาะบาตัม เมื่อเวลาประมาณ 5.00 น. ของวันพุธ (2) จนถึงตอนนี้สามารถทำการค้นหาและช่วยเหลือได้แล้ว 39 ราย
ตำรวจสงสัยว่า การเดินทางนี้ไม่ถูกกฎหมาย และคนงานเหล่านี้ก็คงไม่มีการทำเอกสาร เพราะมันจะทำให้ผู้โดยสารต้องจ่ายเงินแพงขึ้น ตำรวจได้จับกุมหญิงชาวอินโดนีเซียรายหนึ่งที่พยายามจะออกจากบาตัมไปสิงคโปร์ เพราะเชื่อว่าเธอมีส่วนรับผิดชอบต่อการเดินทางนี้
ฮาร์ยันโต ผู้รอดชีวิตวัย 51 ปี ได้บอกว่า เรือล่มท่ามกลางสภาพอากาศที่มีฝนตกลงมาอย่างหนัก รวมถึงมีคลื่นสูง หลังออกจากมาเลเซียได้ประมาณ 2 ชั่วโมง เขายังบอกด้วยว่า เรือบรรทุกคนเกินพิกัด
“คนเยอะมาก พวกเราบางคนนั่งไม่ได้เลย” กล่าวโดย ฮาร์ยันโต ผู้ได้รับความช่วยเหลือจากชาวประมง หลังลอยคออยู่ในน้ำ 2 ชั่วโมง
เฮลิคอปเตอร์ของตำรวจ กับเรืออีกมากกว่าสิบลำ ได้เข้ามาช่วยกันในภารกิจค้นหาและกู้ชีพครั้งนี้
เรือสปีดโบ้ตและเรือเฟอร์รีเป็นรูปแบบการเดินทางที่พบเห็นเป็นประจำในอินโดนีเซีย ซึ่งเต็มไปด้วยเกาะมากมาย เรือล่มถือเป็นเรื่องที่พบได้บ่อย เพราะระบบการกำกับดูแลความปลอดภัยย่ำแย่ หนึ่งในเหตุการณ์ครั้งเลวร้ายสุดเกิดขึ้นในปี 2009 เมื่อมีเรือเฟอร์รีล่มนอกเกาะสุลาเวสี ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 330 ราย