ผู้แทน UN ถึงยะไข่พบชุมชนมุสลิมสอบสวนเหตุละเมิดสิทธิโรฮิงญา

ผู้แทนพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติประจำพม่าเดินทางลงพื้นที่รัฐยะไข่เมื่อวันเสาร์ (14) เพื่อสอบสวนข้อกล่าวหาการละเมิดสิทธิชาวมุสลิมโรฮิงญาโดยกองกำลังรักษาความมั่นคงพม่า

ยางฮี ลี ที่เดินทางเยือนเมืองสิตตเว เมืองเอกของรัฐยะไข่ เป็นเวลา 3 วัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเยือนพม่านาน 12 วัน เพื่อสืบสวนความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนของพม่าซึ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น

ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ชาวโรฮิงญาตกเป็นเป้าของการปราบปรามทางทหารในพื้นที่ทางเหนือของรัฐยะไข่ ที่สหประชาชาติระบุว่าเป็นผลให้ชาวโรฮิงญาอย่างน้อย 65,000 คน ต้องหลบหนีข้ามพรมแดนไปบังกลาเทศ

การเยือนพม่าของลีในครั้งนี้ เป็นไปตามคำเชิญของรัฐบาล ระหว่างการเยือนลีได้พบหารือกับนักการเมืองและแกนนำชุมชน ผู้แทนภาคประชาสังคม เหยื่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนและสมาชิกชุมชนระหว่างประเทศ โดยลีระบุว่าจะส่งรายงานต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติในเดือนมีนาคม

ที่เมืองสิตตเว ลีได้พบหารือกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอาวุโสและเดินทางไปยังย่านชาวมุสลิมเพียงแห่งเดียวที่ยังเหลืออยู่ในเมืองนับตั้งแต่เกิดเหตุการปะทะในปี 2555 ที่ผลักดันชาวโรฮิงญาหลายแสนชีวิตต้องไปอาศัยอยู่ในค่ายผู้พลัดถิ่นภายในประเทศ

“เราบอกกับเธอว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับพวกเรา เราต้องการให้เด็กๆ ของเราได้เรียนหนังสืออย่างสงบสุขและเราต้องการงานอย่างที่เราเคยมีก่อนหน้านี้” ชาวมุสลิมท้องถิ่นรายหนึ่ง กล่าว

“เราต้องการบอกกับเธอถึงความยากลำบากที่เราเจอที่นี่ ความเป็นอยู่เหมือนกับอยู่ในคุกนานเกือบ 5 ปี เราอาศัยอยู่ที่นี่มาหลายรุ่นแล้ว แต่รัฐบาลบอกว่าเราไม่ใช่พลเมืองของประเทศนี้ มันเจ็บปวดมาก เราควรได้รับสิทธิพลเมือง” ชายชาวโรฮิงญาในชุมชนอ่องมิงกาลา กล่าว

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่อาวุโสจากพรรคแห่งชาติอาระกัน ที่ควบคุมสภาของรัฐและคัดค้านอย่างหนักต่อความเคลื่อนไหวใดๆ ที่จะมอบสิทธิความเป็นพลเมืองให้กับโรฮิงญา กล่าวว่าพวกเขาได้ปฏิเสธที่พบหารือกับยางฮี ลี

“พวกเขาเสนอที่จะพบหารือกับพวกเรา แต่เราไม่มีแผนที่จะพบพวกเขา” รองประธานพรรคแห่งชาติอาระกัน กล่าว

หลายหมู่บ้านในพื้นที่ทางเหนือของรัฐยะไข่ อยู่ภายใต้การควบคุมของทหารนับตั้งแต่เดือนตุลาคม ด้วยกองทัพดำเนินการกวาดล้างเพื่อค้นหาผู้ก่อเหตุไม่สงบโรฮิงญาที่ถูกกล่าวอ้างว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีด่านชายแดนตำรวจ

วิกฤตที่เกิดขึ้นนำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากต่างประเทศและเรียกร้องให้มีการสืบสวนระหว่างประเทศต่อข้อกล่าวหาต่อกองกำลังทหารที่ว่าได้ก่อเหตุข่มขืน สังหาร และทรมานพลเรือนจากชนกลุ่มน้อยมุสลิม

ก่อนการเยือนพม่าครั้งนี้ ยางฮี ลี กล่าวว่า ความรุนแรงในรัฐยะไข่นำมาซึ่งความสงสัยต่อทิศทางที่รัฐบาลชุดใหม่กำลังดำเนินอยู่ในปีแรกของการบริหารประเทศ และข้อสงสัยที่ว่ารัฐบาลพลเรือนสามารถควบคุมกองทัพได้หรือไม่

ความคิดเห็น

comments