รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ฌอง มาร์ค เอโรต์ (Jean-Marc Ayrault) แถลงในวันอาทิตย์(15 มกราคม)จากการประชุมสันติภาพตะวันออกกลางปารีสซัมมิตแก้ปัญหาอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ที่มีผู้แทนกว่า 70 ชาติเข้าร่วม ส่งคำเตือนไปยังว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าการเลือกที่จะย้ายสถานทูตสหรัฐฯประจำอิสราเอลไปยังเมืองเยรูซาเลม อาจส่งผลที่เลวร้ายเกิดขึ้นตามมาในภายหลัง และยังเป็นการทำลายความพยายามสร้างสันติภาพในตะวันออกกลาง
USA TODAY รายงานเมื่อวันอาทิตย์(15 มกราคม)ว่า ฌอง มาร์ค เอโรต์ (Jean-Marc Ayrault) รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสส่งเสียงมาจากที่ประชุมสันติภาพตะวันออกกลางปารีสซัมมิตในวันอาทิตย์(15)ว่า ข้อเสนอที่ดื้อดึงของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ในการที่จะย้ายที่ตั้งสถานทูตสหรัฐฯประจำอิสราเอลจากกรุงเทลอาวีฟ ไปยังเมืองเยรูซาเลมนั้นอาจทำให้เกิดผลที่ร้ายแรงตามมาในภายหลัง และอีกทั้งยังป็นการทำลายความพยายามสร้างสันติภาพในตะวันออกกลาง
ซึ่งการแถลงของรัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสกลางปารีสซัมมิตที่มีตัวแทนจากนานาประเทศกว่า 70 ชาติเข้าร่วมรวมไปถึงตัวแทนจากรัฐบาลที่กำลังหมดวาระของสหรัฐฯ โดยที่ประชุมนี้มีการออกแถลงการณ์เรียกร้องให้คู่ขัดแย้งอิสราเอล – ปาเลสไตน์ ให้เข้าร่วมอย่างเป็นทางการการต่อแก้ปัญหาข้อขัดแย้งโดยใช้วิธีแก้ปัญหาแบบ 2 นคราประชาธิปไตย(the two-state solution)
ทั้งนี้ในการประชุมที่ครั้งนี้ที่มีรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯที่กำลังจะหมดอำนาจ จอห์น เคร์รีได้เข้าร่วมอยู่ด้วย แต่ว่าที่รัฐบาลใหม่สหรัฐฯที่กำลังจะเข้าพิธีสาบานตนในวันศุกร์(20)นี้กลับไม่ได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมในที่ประชุมแห่งนี้ และอีกทั้งปารีสซัมมิตยังไม่ได้มีตัวแทนจากอิสราเอลและปาเลสไตน์ร่วมนั่งอยู่ในที่ประชุม ถึงแม้ว่าทั้งสองประเทศถูกรับเชิญให้ส่งตัวแทนเพื่อเข้ารับฟังการหารือก็ตาม
โดยก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์ว่า ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ มาห์มูด อับบาส อาจจะเข้าร่วม แต่การเดินทางของอับบาสถูกเลื่อนออกไป ในขณะที่นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ปฎิเสธที่จะเข้าร่วม พร้อมกล่าวหาการประชุมครั้งนี้ว่า เป็นการจัดฉาก
ผู้นำยิวได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง ในวันอาทิตย์(15)โดยชี้ว่า การประชุมครั้งนี้เป็นความพยายามของฝรั่งเศสที่รวมหัวกับพวกปาเลสไตน์ในความพยายามร่วมกันที่จะผลักดันเพื่อหาข้อสรุปต่อต้านยิวให้เกิดขึ้น โดยการประชุมปารีสซัมมิตได้ผลักสันติภาพให้ออกห่างไป ด้วยการส่งเสริมพวกปาเลสไตน์
ด้านเคร์รีที่นั่งร่วมอยู่ในที่ประชุมแห่งนี้เช่นกันได้ออกมาให้ความเห็นว่า สหรัฐฯทำงานเพื่อปกป้องอิสราเอลจากการปฎิบัติอย่างไม่เป็นธรรมมหากเกิดขึ้นในการประชุม และกล่าวผ่านแถลงการณ์ต่อว่า ในส่วนของแถลงการณ์ที่ออกมาในการประณามการโจมตีอิสราเอลนั้น เกิดขึ้นได้เพราะการกดดันอย่างหนักจากฝ่ายสหรัฐฯ
“เราไม่ได้ทำให้แถลงการณ์อ่อนลง แต่เราทำในสิ่งที่จำเป็นเพื่อทำให้เกิดความยุติธรรมและมีการถ่วงดุลเกิดขึ้น” เคร์รีชี้แจง
นอกจากนี้ยังพบว่าข้อเสนอจากว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯในการที่จะย้ายที่ตั้งสถานทูตสหรัฐฯประจำอิสราเอลไปยังเมืองเยรูซาเลมเรียกเสียงประณามจากปากของรัฐมนตรีฝรั่งเศสว่า “เมื่อคุณอยู่ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คุณไม่สามารถมีจุดยืนที่ดื้อดึง และความเห็นด้านเดียวต่อปัญหานี้” เอโรต์กล่าวต่อสื่อฝรั่งเศส France 24 และกล่าวต่อว่า “คุณจำเป็นต้องสร้างเงื่อนไขเพื่อให้เกิดสันติภาพ”
โดยก่อนหน้านี้อับบาสได้ออกมาเตือนว่า สันติภาพอาจต้องถอยหลัง หากว่าทรัมป์ย้ายสถานทูตสหรัฐฯประจำอิสราเอลไปเมืองเยรูซาเลมจริง ซึ่งการทำครั้งนี้จะเป็นการลบล้างจุดยืนสหรัฐฯในรอบหลายสิบปีที่ระบุว่า สถานภาพของเยรูซาเลมควรถูกพิจารณาในการเจรจาสันติภาพร่วมกับชาวปาเลสไตน์ ซึ่งเป็นที่รู้ว่าปาเลสไตน์ต้องการให้เมืองเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ของรัฐปาเลสไตน์ ซึ่งเป็นการใช้สิทธิในที่ดินตามมติของสหประชาชาติที่ให้อิสราเอลต้องคืนดินแดนที่ยึดไปหลังปี 1967 แต่ทว่าอิสราเอลนอกจากไม่ยอมคืนดินแดนเหล่านี้แล้ว ยังคงเดินหน้าสร้างบ้านชาวยิวจำนวนมากในดินแดนของชาวปาเลสไตน์ และไม่ยอมแบ่งเมืองเยรูซาเลมออกเป็น 2 ส่วนตามแผนการของรัฐปาเลสไตน์
การประชุมปารีสซัมมิตเกิดขึ้นท่ามกลางการประท้วงของกลุ่มหนุนยิว โดยมีกลุ่มผู้ประท้วงจำนวนหลายร้อยคนเดินขบวนสนับสนุนอิสราเอลบริเวณด้านหน้าสถานทูตอิสราเอลกลางกรุงปารีส
