ผู้หญิงนับล้านอัดแน่นในสวนสาธารณะเนชันแนล มอลล์ของวอชิงตัน รวมทั้งอีกหลายเมืองในอเมริกาและทั่วโลกเมื่อวันเสาร์ (21) ซึ่งถือเป็นการแสดงพลังครั้งแรกของกลุ่มรากหญ้าเพื่อต่อต้านทรัมป์นับจากที่เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ปากพล่อยผู้นี้ย้ายเข้าสู่ทำเนียบขาว ด้านโฆษกทำเนียบขาวจวกสื่อจงใจเสนอภาพที่ทำให้ดูเหมือนมีคนไปร่วมให้กำลังใจทรัมป์ในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งน้อยกว่าความเป็นจริง
เนชั่นแนล มอลล์กลายเป็นทะเลสีชมพูโดยปริยาย จากการรวมตัวของคนนับแสนซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงสวมหมวกถัก “พุซซี่แฮต” ซึ่งเป็นการประณามโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนล่าสุดของสหรัฐฯ ที่เคยโอ้อวดในคลิปที่ถ่ายไว้เมื่อหลายปีมาแล้วเกี่ยวกับความสามารถของตัวเองในการลูบคลำอวัยวะเพศผู้หญิง (pussy)
ผู้จัดการชุมนุมประเมินว่า มีผู้เข้าร่วมประท้วงเกินล้าน ซึ่งมากกว่าที่ประเมินไว้ในตอนแรกว่า จะมีเพียง 500,000 คน ทั้งยังมากกว่าจำนวนผู้ชุมนุมสนับสนุนทรัมป์ในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันศุกร์ (20)
ผู้ร่วมชุมนุมในเนชันแนล มอลล์เดินทางมาจากทั่วสารทิศโดยรถบัส รถไฟ และแม้กระทั่งเครื่องบิน
จอห์น เคร์รี ผู้กลายเป็นอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ จูงสุนัขของตัวเองร่วมเดินขบวนด้วย ขณะที่ฮิลลารี คลินตัน ทวิตขอบคุณสำหรับการปราศรัย การเดินขบวน และการยืนหยัดสนับสนุนค่านิยมอเมริกัน นอกจากนี้ยังมีนักการเมือง นักเคลื่อนไหว และคนดังมากมายขึ้นปราศรัยบนเวที สลับกับการแสดงจากศิลปินมากหน้าหลายตา ในจำนวนนี้รวมถึงมาดอนนา
นอกจากนั้นยังมีการเดินขบวนประท้วงของกลุ่มสตรี รวมถึงกลุ่มเคลื่อนไหวอื่นๆ ในแอตแลนตา บอสตัน เดนเวอร์ ลอสแองเจลีส ไมอามี่ โอ๊คแลนด์ และซีแอตเติล เฉพาะที่ชิคาโกซึ่งเป็นถิ่นของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามานั้น คาดว่า มีผู้เข้าร่วมเดินขบวนถึง 175,000 คน ขณะที่คนนับหมื่นในนิวยอร์กพยายามเดินขบวนไปยังบริเวณที่ใกล้ทรัมป์ ทาวเวอร์กลางเมืองแมนฮัตตัน มากที่สุดเท่าที่ทำได้
การชุมนุมต่อต้านทรัมป์ยังเกิดขึ้นทั่วโลก ผู้จัดในลอนดอนเผยว่า มีผู้เข้าร่วมราว 80,000 คน ส่วนที่ปราก มีฝูงชนหลายร้อยคนรวมตัวที่จัตุรัสเวนเซสลาส
การชุมนุมของผู้คนจำนวนมากในหลายพื้นที่เป็นการส่งสัญญาณชัดเจนถึงผู้นำใหม่ของสหรัฐฯ ที่ขึ้นชื่อเรื่องทนฟังเสียงวิจารณ์ไม่ได้ ทั้งยังชอบอวดอ้างจำนวนมวลชนที่สนับสนุนตนเอง
อย่างไรก็ตาม การขึ้นสู่อำนาจของทรัมป์ทำให้กลุ่มประชานิยมปีกขวาทั่วโลกฮึกเหิมขึ้นมาทันใด มารีน เลอ เปน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ประกาศในที่ประชุมนักชาตินิยมที่เยอรมนีเมื่อวันเสาร์ว่า ปี 2017 จะเป็นปีที่ชาวยุโรปตื่นจากหลับใหล
วันเสาร์ ฌอน สไปเซอร์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวหาว่า ช่างภาพของสำนักข่าวต่างๆ จงใจถ่ายภาพในมุมที่ทำให้ดูเหมือนมีผู้ชุมนุมสนับสนุนทรัมป์ที่เนชันแนล มอลล์เมื่อวันศุกร์น้อยกว่าความเป็นจริง แถมยังมีการระบุจำนวนผู้สนับสนุนไม่ถูกต้อง เนื่องจากสำนักงานบริหารสวนสาธารณะแห่งชาติที่ควบคุมเนชันแนล มอลล์ไม่เคยประเมินตัวเลขดังกล่าวมาก่อน
กระนั้น สไปเซอร์เองกลับอวดอ้างว่า มีผู้ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีสาบานตนของทรัมป์สูงสุดเป็นประวัติการณ์
นอกจากนี้ เขายังบอกว่า ทรัมป์ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นในสำนักงานใหญ่ของสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) ในแลงก์ลีย์ รัฐเวอร์จิเนีย พร้อมโจมตีวุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครตที่คัดค้านการแต่งตั้งไมค์ ปอมปิโอ เป็นผู้อำนวยการหน่วยงานนี้ และสำทับว่า สื่อควรรายงานข่าวนี้แทนที่จะเขียนข่าวเสี้ยมให้ประเทศชาติแตกแยก
ทั้งนี้ ทรัมป์วิจารณ์หน่วยงานข่าวกรองของอเมริกาในแบบที่ไม่เคยมีประธานาธิบดีคนใดเคยทำมาก่อน จากกรณีที่หน่วยงานเหล่านี้ปักใจเชื่อว่า รัสเซียพยายามแทรกแซงการเลือกตั้งของอเมริกาเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมาเพื่อสนับสนุนให้ทรัมป์ได้เข้าสู่ทำเนียบขาว
ในระหว่างปราศรัยที่ซีไอเอ ทรัมป์ให้สัญญาว่า จะกำจัดลัทธิอิสลามหัวรุนแรง “ปีศาจ” และโจมตีสื่อไม่ซื่อสัตย์ที่รายงานจำนวนฝูงชนที่สนับสนุนตนในพิธีสาบานตนน้อยกว่าความเป็นจริง แต่ไม่พาดพิงถึงการประท้วงใหญ่ในวันเสาร์แต่อย่างใด
อนึ่ง นอกจากประเด็นก่อการร้ายแล้ว ในวันศุกร์ หลังเสร็จจากพิธีสาบานตนไม่นาน ทรัมป์ได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารยกเลิก “โอบามาแคร์” หรือกฎหมายประกันสุขภาพที่โอบามาผลักดัน โดยเรนซ์ พรีบัส หัวหน้าคณะทำงานทำเนียบขาวระบุว่า เพื่อลดภาระทางการเงินตามที่ทรัมป์ประกาศไว้ระหว่างหาเสียง
วันเดียวกันนั้น รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ นำเจมส์ แมตทิส รัฐมนตรีกลาโหม และจอห์น เคลลี่ รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งนับเป็นรัฐมนตรีชุดแรกในคณะบริหารของทรัมป์ที่ได้รับการรับรองจากวุฒิสภา
