ปัญหาแกรมเบียไม่จบ รบ.ใหม่กล่าวหาอดีตผู้นำลอบขนเงินออกจากคลัง

ไม อาห์หมัด ฟัตตี (Mai Ahmad Fatty) ที่ปรึกษาพิเศษประธานาธิบดีแกมเบียคนใหม่ อาดามา บาร์โรว์ (Adama Barrow) ออกแถลงการณ์ล่าสุดจากเมืองหลวงกรุงเซเนกัล อ้างว่าได้รับข่าวจากเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังแกมเบีย ระบุว่า ยะห์ยา จัมเมห์ (Yahya Jammeh) อดีตผู้นำแดนแอฟริกาตะวันตกแอบนำเงินร่วม 11.4 ล้านดอลลาร์ออกจากคลัง และส่งรถยี่ห้อหรูที่มีราคาแพงอออกไปนอกประเทศในช่วงไม่กี่สัปดาห์สุดท้ายก่อนทั้งครอบครัวจัมเมห์จะตกลงยอมรับข้อเสนอการลี้ภัยในค่ำวันเสาร์ (21 มกราคม) ไปยังกินี ในขณะที่ปัญหาเสถียรภาพแกมเบียยังไม่มั่นคงอย่างต่อเนื่อง กองกำลังรักษาสันติภาพแอฟริกาตะวันตกภายใต้การนำของเซเนกัลยังคงปักหลักอยู่ในแกมเบียต่อไป เพื่อยืนยันความปลอดภัยให้บาร์โรว์เดินทางกลับเข้ามาบริหารประเทศ

เอพีรายงานวันจันทร์ (23 มกราคม) ว่า ที่ปรึกษาพิเศษประธานาธิบดีแกมเบียคนใหม่ที่เพิ่งสาบานตนเพื่อเข้ารับตำแหน่งในวันพฤหัสบดี (19) ภายในสถานทูตแกมเบียประจำเซเนกัล ล่าสุดได้ออกมาแถลงข่าวในกรุงดาการ์ โดยอ้างว่า อดีตผู้นำแกมเบีย ยะห์ยา จัมเมห์ (Yahya Jammeh) ได้แอบนำเงินออกจากคลังแกมเบีย รวมไปถึงรถยี่ห้อหรู โดยอ้างอิงจากแหล่งข่าวกระทรวงการคลังแกมเบีย

ไม อะห์หมัด ฟัตตี (Mai Ahmad Fatty) แถลงต่อนักข่าวว่า ประธานาธิบดีแกมเบีย อาดามา บาร์โรว์ (Adama Barrow) จะเดินทางกลับเข้าแกมเบียจากเซเนกัลให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

ฟัตตีกล่าวต่อว่า ภายในช่วงเวลาแค่ 2 สัปดาห์ของการอยู่ในอำนาจ อดีตประธานาธิบดีจัมเมห์ได้ขนเงินออกนอกประเทศไม่ต่ำกว่า 11.4 ล้านดอลลาร์(ประมาณ 380 ล้านบาท)

โดยเขาประกาศว่า “ในขณะนี้แกมเบียกำลังอยู่ในวิกฤตด้านการคลัง คลังหลวงของประเทศนั้นดูเหมือนราวกับว่าว่างเปล่า และนั่นเป็นความจริงที่เกิดขึ้น” และที่ปรึกษาพิเศษประธานาธิบดีแกมเบียเสริมว่า “ สิ่งนี้ได้รับการยืนยันจากทั้งเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีกระทรวงการคลังแกมเบีย และธนาคารกลางแกมเบีย”

นอกจากนี้ ฟัตตียังเปิดเผยต่อว่า เครื่องบินคาร์โก้ของชาดได้ทำการขนสิ่งของมีค่าออกไปจากแกมเบียในนามของจัมเมห์ ในช่วงไม่กี่ชั่วโมงของการอยู่ในอำนาจของอดีตผู้นำแกมเบียที่อยู่ในอำนาจมานานถึง 22 ปี ซึ่งฟัตตีระบุว่า การนำของมีค่าออกนอกประเทศครั้งนี้ยังรวมไปถึง รถยนต์หรูจำนวนหนึ่ง

จากการแถลงของที่ปรึกษาพิเศษประธานาธิบดีแกมเบีย พบว่า เจ้าหน้าที่ประจำท่าอากาศยานนานาชาติบันจู ได้รับการออกคำสั่ง “ไม่อนุญาต” ให้นำทรัพย์สินส่วนตัวของจัมเมห์ออกนอกแกมเบีย

ในรายงานอีกชิ้นได้ระบุว่า ทรัพย์สินของอดีตผู้นำแกมเบียในกินียังคงอยู่ในกินี ประเทศที่จัมเมห์และครอบครัว รวมไปถึงบุคคลใกล้ชิดเดินทางไปถึงเพื่อลี้ภัยทางการเมือง หลังจากก่อนหน้านี้จัมเมห์ยอมตกลงที่จะเดินทางออกนอกประเทศในค่ำวันเสาร์ (21) อย่างสงบตามข้อเรียกร้องของรัฐบาลใหม่ ก่อนที่ทางกองกำลังแอฟริกาตะวันตกตามคำสั่งขององค์กรเศรษฐกิจชุมชนของประเทศแอฟริกาตะวันตก ECOWAS ที่มีสมาชิกประเทศแอฟริกาตะวันตก 15 ชาติ จะใช้กำลังทำการบังคับให้จัมเมห์ต้องออกจากอำนาจ

ฟัตตีกล่าวต่อว่า “บรรดาเจ้าหน้าที่แกมเบียต่างเสียใจในสถานการณ์ที่ได้เกิดขึ้น แต่ดูเหมือนว่า ความเสียหายครั้งใหญ่นี้ได้จบลงแล้ว แต่ทิ้งให้รัฐบาลแกมเบียชุดใหม่ของบาร์โรว์ต้องบริหารประเทศด้วยทรัพยากรจำกัดเพื่อต้องกอบกู้สถานการณ์ทางการเงิน

โดยเอพีระบุว่า ในการแถลงของฟัตตี ที่ปรึกษาบาร์โรว์ยังออกมาปฎิเสธหรือสนับสนุนแถลงการณ์ร่วมขององค์การสหประชาชาติและ ECOWAS ในการให้การคุ้มกันต่อทั้งตัวอดีตผู้นำแกมเบีย ครอบครัว และคนใกล้ชิด ที่รวมไปถึงการให้คำรับรองว่า ทรัพย์สินของจัมเมห์ที่ได้มาอย่างถูกกฎหมายจะไม่ถูกยึด ซึ่งแถลงการณ์ร่วมนี้ออกมาหลังจากที่จัมเมห์ได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว

แต่อย่างไรก็ตาม ฟัตตีกลับกล่าวปฏิเสธว่า “เท่าที่ผมรับรู้ แถลงการณ์ร่วมนี้ไม่เคยเกิดขึ้น” และในแถลงการณ์ร่วมยังอ้างต่อไป โดยชี้ว่าการลี้ภัยของจัมเมห์นั้นเป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้น และยังรับรองต่อว่า จัมเมห์ยังสามารถเดินทางกลับเข้าแกมเบียได้ทุกเมื่อ

เอพีรายงานว่า ถึงแม้ข้อตกลงร่วมระหว่างองค์การสหประชาชาติ และ ECOWAS จะให้การปกป้องอย่างเต็มที่กับอดีตผู้นำแกมเบีย ซึ่งอยู่ในอำนาจมาอย่างยาวนานร่วม 22 ปี แต่ทว่าในการคุ้มครองไม่รวมไปถึง การนิรโทษกรรม อ้างอิงจากการให้สัมภาษณ์ของทนายความด้านสิทธิมนุษยชน รีด โบรดี (Reed Brody)

“ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ คุณไม่สามารถที่จะนิรโทษกรรมความผิดทางอาญาบางประเภทได้ เช่น ทรมาน หรือการสังหารหมู่ เป็นต้น “ โบรดีให้สัมภาษณ์ผ่านทางอีเมล และกล่าวต่อว่า “มันขึ้นอยู่กับว่า จัมเมห์จะได้รับโทษอะไร ซึ่งอุปสรรคที่แท้จริงในการเอาผิดเขาคือ อุปสรรคทางการเมือง”

ด้าน ฮาลิฟะห์ ซอลและห์ (Halifa Sallah) โฆษกอดีตพรรคฝ่ายค้านร่วมผสมที่สนับสนุนบาร์โรว์ได้ออกมาให้ความเห็นว่า ประธานาธิบดีแกมเบียคนใหม่จะเริ่มต้นจัดตั้งคณะรัฐบาล และทำงานร่วมกับรัฐสภาแกมเบียเพื่อประกาศยกเลิกคำสั่งภาวะฉุกเฉินที่ออกมาโดยจัมเมห์ก่อนหน้านี้ในช่วงไม่กี่วันสุดท้ายก่อนที่เขาสิ้นสุดจากอำนาจ

เอพีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า กองกำลังรักษาสันติภาพแอฟริกาตะวันตกภายใต้การนำของเซเนกัล เดินทางเข้ากรุงบันจูล เมืองหลวงแกมเบียในคืนวันอาทิตย์ (22) ซึ่งภายใต้ปฏิบัติการที่มีเป้าหมายเพื่อนำจัมเมห์ออกจากอำนาจหากว่า ช่องทางเจรจาทางการทูตใช้ไม่ได้ผล โดยกองกำลังชาติแอฟริกันตะวันตกต้องการรับรองความปลอดภัยให้กับบาร์โรว์ในการเดินทางเข้าแกมเบีย

และมีรายงานว่า ในระหว่างที่กองกำลังชาติแอฟริกันตะวันตกกำลังมุ่งหน้ายังทำเนียบประธานาธิบดีแกมเบีย ในกรุงบันจูล มีประชาชนชาวแกมเบียหลายร้อยคนส่งเสียงแสดงความยินดีโห่ร้องอย่างกึกก้อง พร้อมกับเต้นรำ และมีบางส่วนได้ดึงนายทหารต่างชาติเหล่านี้ร่วมถ่ายภาพเซลฟีอย่างสนุกสนาน โดยในแถลงการณ์ของอาดามา บาร์โรว์ ได้กล่าวถึงเงื่อนเวลาการคงอยู่ของกองกำลังภายใต้ภารกิจ ECOWAS ในแกมเบียว่า “กองกำลังจะยังคงอยู่ในประเทศต่อไปจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น”

ด้านประธานกลุ่มเศรษฐกิจชาติแอฟริกาตะวันตก Marcel Alain de Souza ได้ออกมายืนยันว่า กองกำลังบางส่วนของกองทัพแกมเบีย จำเป็นต้องถูกเคลื่อนออกไป และยืนยันว่าในระหว่างที่จัมเมห์ยังไม่ออกจากตำแหน่งนั้น อดีตผู้นำแกมเบียมีกองกำลังทหารรับจ้างข้างกาย และรวมไปถึงอดีตผู้นำแกมเบียยังต้องการนิรโทษกรรมให้แก่ตัวเขาและพรรคพวก และยังคงต้องการอยู่ในแกมเบียต่อไป

ขณะที่หลังจากที่จัมเมห์ได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว ร้านค้าและภัตตาคารต่างๆ เริ่มเปิดทำการตามปกติ มีการเต้นรำบนถนนพร้อมเสียงเพลงที่เปิดขึ้น

ความคิดเห็น

comments