ผู้นำฝ่ายค้านเม็กซิโกแนะรบ.ฟ้อง UN เอาผิด “ทรัมป์” ฐานละเมิดสิทธิมนุษยชน-กีดกันเชื้อชาติ

ผู้นำฝ่ายค้านเม็กซิโกซึ่งถูกคาดหมายเป็นตัวเต็งประธานาธิบดีคนต่อไป เรียกร้องให้รัฐบาลยื่นฟ้องต่อองค์การสหประชาชาติ (UN) เพื่อเอาผิดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ออกคำสั่งสร้างกำแพงปิดกั้นพรมแดนสกัดผู้อพยพผิดกฎหมาย

อันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน National Regeneration Movement (MORENA) ซึ่งเคยลงสมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีมาแล้วถึง 2 ครั้ง ออกมาแถลงตอบโต้ทันทีว่าสหรัฐฯ กำลังดูหมิ่นเกียรติภูมิของเม็กซิโก หลังจากที่ ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งบริหารให้เริ่มก่อสร้างกำแพงยาวตลอดพรมแดน 3,200 กิโลเมตร

“ผมขอแนะนำให้รัฐบาลยื่นฟ้องต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อเอาผิดรัฐบาลสหรัฐฯ ฐานละเมิดสิทธิมนุษยชน และกีดกันทางเชื้อชาติ” โลเปซ โอบราดอร์ แถลงต่อผู้สนับสนุนทางตอนเหนือของกรุงเม็กซิโกซิตี

ผลโพลล่วงหน้าหลายสำนักพบว่า อดีตนายกเทศมนตรีกรุงเม็กซิโกซิตีผู้นี้มีคะแนนนิยมเป็นที่ 1 สำหรับศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งถัดไป ซึ่งจะมีขึ้นในเดือน กรกฎาคม 2018

สัปดาห์ที่แล้ว โลเปซ โอบราดอร์ ประกาศว่าจะเดินทางเยือนเมืองใหญ่ๆ ของสหรัฐฯ ในเดือน กุมภาพันธ์ เพื่อเรียกเสียงสนับสนุนจากชาวอเมริกันเชื้อสายเม็กซิกัน

เขาเรียกร้องให้ชาวเม็กซิโกลุกขึ้นต่อต้านนโยบายของทรัมป์ ซึ่งพูดจาดูหมิ่นเหยียดหยามผู้อพยพจากเม็กซิโกตั้งแต่ช่วงหาเสียง มิหนำซ้ำยังขู่จะใช้มาตรการต่างๆ มาบีบคั้นเศรษฐกิจของเม็กซิโก

คำพูดโจมตีของทรัมป์ ยังพลอยทำให้ประธานาธิบดี เอ็นริเก เปนญา เนียโต ต้องเผชิญกระแสกดดันอย่างหนักจากชาวเม็กซิโกเอง

คะแนนนิยมของเปนญา เนียโต เวลานี้ตกต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับบรรดาผู้นำเม็กซิโกในรอบหลายปี และการที่ ทรัมป์ ออกคำสั่งเริ่มสร้างกำแพงในวันเดียวกับที่รัฐมนตรีเม็กซิโก 2 คนเปิดเจรจากับสหรัฐฯ ก็ยิ่งสร้างความเคียดแค้นต่อชาวเม็กซิโก

ความคิดเห็น

comments