อินโดเตือนพม่า การปราบปรามนองเลือดต่อโรฮิงญาอาจกระทบความมั่นคงภูมิภาค

พม่าควรดำเนินการมาตรการสำคัญที่จะบรรลุความสงบสุขในรัฐยะไข่ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย กล่าววันศุกร์ (10 กุมภาพันธ์) และเตือนว่า การปราบปรามนองเลือดต่อชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมโรฮิงญาของประเทศอาจนำไปสู่ความไม่มั่นคงทัั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ชาวโรฮิงญาหลายร้อยคนคาดว่าเสียชีวิตในการปราบปรามทางทหารในรัฐยะไข่ ในความพยายามค้นหาผู้ก่อความไม่สงบที่ถูกกล่าวโทษว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีด่านชายแดนตำรวจเมื่อเดือนตุลาคม

ชาวโรฮิงญาเกือบ 70,000 คน ได้หลบหนีเข้าไปในฝั่งบังกลาเทศระหว่างปฏิบัติการกวาดล้างที่เริ่มขึ้นเมื่อ 4 เดือนก่อน และเปิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับการสังหาร การข่มขืน ทรมาน และวางเพลิง

อินโดนีเซีย หนึ่งในชาติผู้ก่อตั้งประชาคมอาเซียน ได้ออกมาแสดงความวิตกกังวล และเรียกร้องหาความยุติวิกฤตที่ควรเกิดขึ้นในพม่า

“เราต้องการที่จะกล่าวย้ำอีกครั้งหนึ่งถึงความสำคัญสำหรับรัฐบาลพม่าที่จะดำเนินมาตรการสำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ช่วยให้เกิดความสงบสุข และความปรองดอง” นางเรทโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย กล่าวระหว่างเยือนสิงคโปร์

“อินโดนีเซียร่วมแบ่งปันความวิตกกังวลของประชาคมโลกเกี่ยวกับสถานการณ์ความมั่นคงและมนุษยธรรมในรัฐยะไข่” นางเรทโน มาร์ซูดี กล่าว

ความเป็นอยู่ของชาวโรฮิงญา กลุ่มคนไร้สัญชาติที่ถูกปฏิเสธสิทธิการเป็นพลเมืองในพม่า และถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้อพยพผิดกฎหมายจากบังกลาเทศ ได้สร้างกระแสเรียกร้องจากนานาประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศในการเรียกร้องให้พม่ายุติพฤติกรรมดังกล่าวในทันที

พม่า ถูกมาเลเซียวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับประเด็นปัญหานี้เมื่อเดือนก่อน ที่นับเป็นความขัดแย้งที่หาได้ยากระหว่างเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ของมาเลเซีย กล่าวว่า การปฏิบัติของพม่าต่อชาวโรฮิงญาเป็น “ความด่างพร้อย” ของกลุ่มสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และอาจมีกลุ่มไม่หวังดีใช้ประโยชน์จากวิกฤตดังกล่าว

มาร์ซูดีแสดงความชัดเจนว่า อินโดนีเซียต้องการให้ความช่วยเหลืออย่างสร้างสรรค์

“การที่ไม่สามารถช่วยเหลือแก้ไขสถานการณ์ในรัฐยะไข่นั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะส่งผลกระทบทางลบต่อความมั่นคงของภูมิภาค และด้วยบริบทดังกล่าว อินโดนีเซียได้ดำเนินบทบาทเชิงรุกในการช่วยเหลือพม่าจัดการต่อสถานการณ์” รัฐมนตรีกระทรวงกาต่างประเทศอินโดนีเซีย กล่าว

เมื่อเดือนก่อน คณะผู้แทนของพม่าเดินทางเยือนอินโดนีเซียเพื่อเรียนรู้วิธีที่รัฐบาลอินโดนีเซียชาติมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดของโลกบรรลุข้อตกลงสันติภาพระหว่างชาวคริสต์ และมุสลิม ใน จ.โมลุกกะ

หนึ่งในสมาชิกของคณะผู้แทนจากพม่า คือ อู่ โก นี ทนายความชาวมุสลิม ที่ปรึกษาทางกฎหมายของพรรค NLD อายุ 63 ปี ที่ถูกลอบสังหารนอกสนามบินย่างกุ้งเมื่อวันที่ 29 มกราคม

โก นี เป็นทนายความชื่อดังที่ช่วยซูจีหาช่องว่างในรัฐธรรมนูญในการตั้งเธอขึ้นในตำแหน่งที่ปรึกษาแห่งรัฐ ในการทำให้ซูจีมีอำนาจในการบริหารพม่าได้โดยที่ไม่ต้องเป็นประธานาธิบดี นอกจากนี้เขายังมีคสามพยายามที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เขียนโดยทหารพม่า และเคยถูกข่มขู่ลอบสังหารมาแล้วหลายครั้ง

ความคิดเห็น

comments