รัฐบาลอิหร่านได้สั่งซื้อยูเรเนียมที่มีความเข้มข้นทางเคมีสูงจำนวน 950 ตันจากคาซัคสถาน เพื่อนำมาใช้ในโครงการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์พลเรือน โดยจะทยอยส่งมอบในช่วง 3 ปีข้างหน้า หัวหน้าสำนักงานปรมาณูอิหร่านแถลงวันเสาร์ (25 กุมภาพันธ์)
คำสั่งซื้อดังกล่าวถูกกระทำผ่านหน่วยงานซึ่งกำกับดูแลการลงนามข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านกับกลุ่มมหาอำนาจ P5+1 เมื่อปี 2015
อาลี อักบาร์ ซอลีฮี ผู้อำนวยการองค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่าน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว ISNA ว่า การนำเข้ายูเรเนียมทั้งหมดนี้คาดว่าจะสำเร็จเรียบร้อย “ภายใน 3 ปี”
“ยูเรเนียมจำนวน 650 ตันจะถูกส่งเข้ามายังอิหร่านเป็น 2 ล็อต ส่วนล็อตสุดท้าย 300 ตันจะส่งเข้ามาในช่วงปีที่ 3”
ซอลีฮี ระบุด้วยว่า ยูเรเนียมเข้มข้นหรือที่เรียกกันว่า “เค้กเหลือง” (yellow cake) ล็อตสุดท้ายจะถูกนำมาแปรสภาพเป็น “ก๊าซยูเรเนียมเฮกซาฟลูออไรด์” ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในกระบวนการเสริมสมรรถนะยูเรเนียม จากนั้นอิหร่านจะขายคืนให้แก่คาซัคสถาน ซึ่งจะถือเป็นครั้งแรกที่เตหะรานส่งออกก๊าซชนิดนี้ไปยังต่างประเทศ
ข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์ของมหาอำนาจกลุ่ม P5+1 กำหนดให้อิหร่านต้องลดจำนวนเครื่องหมุนเหวี่ยงวัสดุนิวเคลียร์ส่วนใหญ่ที่มีอยู่ แต่ยังมีสิทธิ์ผลิตยูเรเนียมที่มีความบริสุทธิ์ไม่เกิน 3.5% และส่งขายต่างประเทศได้
อิหร่านยังได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องหมุนเหวี่ยงรุ่น IR-1 จำนวนถึง 5,000 ตัว และอยู่ระหว่างทดสอบรุ่นที่ทันสมัยกว่าและสามารถผลิตยูเรเนียมเสริมสมรรถนะได้มากกว่า ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้การควบคุมอย่างใกล้ชิดของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA)
ซอลีฮี รับว่า รัฐบาลอิหร่านได้นำเข้า “เค้กเหลือง” จากต่างประเทศประมาณ 382 ตันนับตั้งแต่ข้อตกลงนิวเคลียร์เริ่มมีผลบังคับในเดือน มีนาคม ปี 2016 โดยส่วนใหญ่นำเข้ามาจากรัสเซีย