พายุกระหน่ำพัดต้นสนหักโค่น ทับสายไฟฟ้า บ้านบูกิ๊ตอ่าวมะนาว ตำบลกะลุวอเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส
วันอังคาร (4 เมษายน) เกิดเหตุพายุฝนกระหน่ำอย่างหนักบนถนนสายในหมู่บ้านบูกิ๊ตอ่าวมะนาว หมู่ 12 ตำบลกะลุวอเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ทำให้ต้นไม้ใหญ่ล้มระเนระนาดทับสายไฟฟ้าจนเสาไฟฟ้าหักล้มไป 2 ต้น ทำให้ชาวบ้านต้องแจ้งไฟยังการไฟฟ้ามาทำการซ่อมอย่างเร่งด่วนเกรงจะได้รับอันตรายต่อเด็กและชาวบ้าน หลังรับแจ้งมีเหตุดังกล่าวแล้วทางเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลกะลุวอเหนือ และจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดนราธิวาส ได้เข้าตรวจสอบพบว่า เหตุต้นไม้ล้มทับสายไฟฟ้า สายโทรศัพท์ได้รับความเสียหายเสาไฟฟ้าหักโค่นขวางถนน รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรไปมาได้ต้องใช้ทางเลี่ยง จนส่งผลให้ไฟฟ้าดับกว่า 2 ชั่วโมง บ้านเรือนประชาชนไม่มีไฟฟ้าใช้ เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลกะลุวอเหนือ นำอุปกรณ์เครื่องมือเร่งตัดต้นไม้ออกจากถนน และการไฟฟ้าจังหวัดนราธิวาส ส่งเจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมสายไฟ และหม้อแปลงไฟ ที่ถูกกิ่งไม้ และต้นไม้ล้มทับได้รับความเสียหาย เบื้องต้นสามารถซ่อมแซมสามารถจ่ายไฟบางหมู่บ้านได้แล้ว
ด้านนายอัสมีรี แวเด็ง นายกเทศมนตรีตำบลกะลุวอเหนือ เปิดเผยว่า ช่วงนี้ในพื้นที่นราธิวาสมีฝนตกหนักและลมกระโชกรุนแรงอย่างต่อเนื่องมา 3 วัน แล้ว ทำให้พัดต้นไม้ขนาดใหญ่หักโค่นทับเสาไฟฟ้า และสายไฟจนได้รับความเสียหาย ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปซ่อมแซมสายไฟฟ้าที่ถูกต้นไม้ลมทับ ต้องการให้ชาวบ้านได้มีไฟฟ้าได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด เนื่องจากช่วงนี้มีฝนตกขอให้ประชาชนดูแลต้นไม้ใกล้บ้านให้ดีโดยการตัดกิ่งก้านที่ขยายลามมาถึงบริเวณบ้านก็ต้องตัดออกไป เพื่อความปลอดภัยของคนในบ้าน และหาดพบว่ามีต้นไม้ หรือสายไฟขาด เสาไฟฟ้าล้มที่เกิดจากพายุฝนกระหน่ำให้รีบออกห่างจากจุดนั้นทันที และให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยด่วนเพื่อซ่อมแซมและให้เกิดความปลอดภัยให้มากที่สุด.
ภาพ/ข่าว ซาการียา ดอเลาะ