การพัฒนาอย่างเร่งด่วนมีความจำเป็นเพื่อรับประกันการเข้าถึงน้ำสะอาดและสุขาภิบาลทั่วโลก องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุเมื่อวันอังคาร (11 เมษายน) พร้อมเตือนว่าในปัจจุบันคนเกือบสองพันล้านคนกำลังใช้น้ำปนเปื้อนอุจจาระ
ในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตหลายแสนคนเนื่องจากพวกเขาจำต้องดื่มน้ำปนเปื้อน WHO ระบุ และเรียกร้องให้มีการลงทุนขนาดใหญ่เพื่อช่วยให้การเข้าถึงน้ำดื่มสะอาดได้อย่างทั่วถึง
“ปัจจุบันคนเกือบสองพนล้านคนกำลังใช้แหล่งน้ำดื่มที่ปนเปื้อนอุจจาระ ทำให้พวกเขามีความเสี่ยงเป็นอหิวาตกโรค โรคบิด ไข้รากสาดน้อย และโปลิโอ” มาเรีย เนรา หัวหน้าหน่วยสาธารณสุขของ WHO ระบุในถ้อยแถลง
“น้ำดื่มปนเปื้อนถูกประเมินว่าเป็นต้นเหตุของการเสียชีวิตจากโรคท้องร่วงกว่า 500,000 รายในแต่ละปีและเป็ยปัจจัยหลักในโรคเขตร้อนที่ถูกเพิกเฉยหลายโรค รวมถึงพยาธิ โรคพยาธิใบไม้ในเลือด และโรคริดสีดวงตา” เธอกล่าวเสริม
เมื่อปี 2015 สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติได้รับรองเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals – SDGs) เป้าหมายสูงสุดเพื่อการขจัดความยากจนและพัฒนาสวัสดิภาพของมนุษย์รวมถึงการประกาศว่าจะรับประกันการเข้าถึงน้ำละสุขาภิบาลที่สะอาดและเข้าถึงได้อย่างทั่วถึงภายในปี 2030
แต่จากรายงานล่าสุดในวันนี้ (13) ที่เผยแพร่โดย WHO ในนามของ UN-Water หลายประเทศจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้หากพวกเขาไม่เพิ่มการลงทุนอย่างเร่งด่วน
รายงานดังกล่าวยินดีกับความจริงที่ว่าหลายประเทศมีการเพิ่มงบประมาณประจำปีสำหรับน้ำ สุขาภิบาล สุขอนามัย มากขึ้นร้อยละ 4.9 ในช่วงสามปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 80 ของประเทศต่างๆ ยอมรับว่า เงินทุนของพวกเขายังคงไม่พอที่จะตอบสนองเป้าหมายที่จะเพิ่มการเข้าถึงน้ำและสุขาภิบาลที่ปลอดภัย
“ในประเทศกำลังพัฒนาส่วนใหญ่ เป้าหมายครอบคลุมแห่งชาติในปัจจุบันคือการทำให้สามารถเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานได้อย่างทั่วถึง ซึ่งอาจไม่ได้จัดสรรการบริการที่ปลอดภัยและน่าไว้วางใจอย่างต่อเนื่องเสมอไป” WHO เตือนในถ้อยแถลง
ในขณะเดียวกัน ธนาคารโลกประเมินว่า การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานจำเป็นที่จะต้องเพิ่มขึ้นสามเท่าเป็น 1.14 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี ไม่รวมถึงค่าดำเนินงานและค่าบำรุงรักษา เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย SDG
https://www.youtube.com/watch?v=k_IH_Q3Z0oA