ระเบิดขบวนผู้อพยพในอเลปโป เด็ก-สตรี-นักรบฝ่ายต่อต้านตายแล้ว 126

กลุ่มสังเกตการณ์ซีเรียเพื่อสิทธิมนุษยชน (SOHR) ที่มีฐานอยู่ในอังกฤษ ออกแถลงการณ์ยืนยัน ยอดผู้เสียชีวิตจากระเบิดถล่มคาราวานรถบัสผู้อพยพนอกเมืองอะเลปโป ซีเรีย ในวันเสาร์(15 เมษายน) เพิ่มขึ้นล่าสุดอยู่ที่ 126 คน ที่ส่วนมากเป็นเด็ก สตรี และนักรบฝ่ายต่อต้านซีเรียที่คอยอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มผู้อพยพ

การโจมตีเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่เมือง Rashidin ทางตะวันตกของ Aleppo โดยผู้ก่อเหตุได้กำหนดเป้าหมายให้ประชาชนที่อพยพออกที่จากเมือง Fouaa และ Kefraya ในจังหวัด Idlib ที่ถูกปิดล้อมโดยฝ่ายต่อต้านซีเรีย ภายใต้ข้อตกลงในการอพยพพลเรือนชาวชีอะห์ออกจากเมืองที่มีการสู้รบระหว่างกองกำลังบาชาร์ อัล-อัสซาด และฝ่ายต่อต้านซีเรีย

กลุ่มสังเกตการณ์ซีเรียเพื่อสิทธิมนุษยชน (SOHR) เปิดเผยล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยเพิ่มเป็น 126 คนจากที่ก่อนหน้านี้ระบุว่า 112 คน โดยมีเด็ก 68 คนรวมอยู่ในกลุ่มผู้เสียชีวิต

อาสาสมัครกู้ภัยที่ทำหน้าที่กู้ภัยในพื้นที่ของฝ่ายต่อต้านซีเรียเปิดเผยเมื่อวันเสาร์หลังเกิดเหตุว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 100 คน ขณะที่สถานีโทรทัศน์ที่สนับสนุนระบอบการปกครองบาชาร์ อัล-อัสซาดรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 39 คน

ในขณะที่สื่อของระบอบบาชาร์รายงานว่ายังไม่ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้ แต่ระบุว่าเป็นเหตุโจมตีแบบ “ระเบิดฆ่าตัวตาย” พร้อมระบุว่าคนร้ายใช้รถตู้เพื่อขนส่งอุปกรณ์บรรเทาทุกข์เข้าก่อเหตุ

ขณะที่ SOHR รายงานว่าระเบิกเกิดขึ้นจากอุปกรณ์ที่ถูกนำมาติดตั้งในรถยนต์

Adham Abul Hussam ผู้สื่อข่าว Al Jazeera รายงานจากเหตุโจมตีที่เกิดขึ้น โดยระบุว่าหลายสิบศพอยู่ในสภาพที่กระจัดกระจาย และรถพยาบาลก็เต็มไปด้วยผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ

“ทีมอาสาสมัครกู้ภัยเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตในรถยนต์ที่ถูกโจมตีจนเสียหายทั้งคัน” เขากล่าว

ภาพที่ถูกโพสต์ในสื่อของระบอบบาชาร์ อัล-อัสซาด แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นผลพวงของการระเบิดที่มีศพที่ถูกเผาและควันดำที่เกิดจากไฟไหม้

รถบัสกลายเป็นสีดำคล้ำหลังจากถูกโจมตีด้วยระเบิด ขณะที่มีหน้าต่างได้รับความเสียหาย

“เหตุระเบิดเกิดขึ้นที่ตอนหน้าขบวนรถซึ่งเดินทางมาพร้อมกันราว 70 คัน เหตุเกิดขึ้นระหว่างการขนถ่ายผู้ป่วย และผู้ได้รับบาดเจ็บจากพื้นที่” Hoda Abdel-Hamid ผู้สื่อข่าว Al Jazeera กล่าวในรายงานจากเมือง Antakya ในตุรกี

“เราเข้าใจว่าการบาดเจ็บ และเสียชีวิตจำนวนมาก … ในหมู่พวกผู้หญิง และเด็ก ๆ และนักรบฝ่ายต่อต้านซีเรียที่ประจำการอยู่ในพื้นที่เพื่อคุ้มกันขบวนอพยพ”

Ahrar al-Sham หนึ่งในกลุ่มนักรบฝ่ายต่อต้านซีเรียที่มีฐานที่มั่นอยู่ทางตอนเหนือของซีเรียออกมาประณามการโจมตีว่าเป็นพวก “ขี้ขลาด” โดยแถลงการระบุว่าสมาชิกของกลุ่มหลายคนถูกสังหารจากเหตุระเบิดดังกล่าว พร้อมระบุว่ายินดีที่จะให้ความร่วมมือกับการสอบสวนระหว่างประเทศเพื่อหาผู้กระทำความผิดมาลงโทษ

การโจมตีเกิดขึ้นเมื่อผู้ลี้ภัยหลายพันคนจากเมืองของชาวชีอะห์ Fouaa และ Kefraya ที่อยู่ภายใต้การยึดครองของระบอบบาชาร์ อัล-อัสซาด กำลังอยู่ระหว่างการเดินทางผ่านพื้นที่ของฝ่ายต่อต้านซีเรียไปยังเมืองอเลปโปที่ห่างไปทางตะวันออกซึ่งเพิ่งตกอยู่ภายใต้การยึดครองของระบอบบาชาร์ อัล-อัสซาด หรือจะเดินทางไปยังจังหวัด Latakia หรือเมืองหลวง Damascus

พลเรือนชาวชีอะห์กว่า 5,000 คนที่อาศัยอยู่ภายในเมือง Fouaa และ Kefraya ที่ถูกปิดล้อมได้รับการอพยพตามข้อตกลงการแลกเปลี่ยนตัวกับพลเรือนชาวซีเรีย 2,200 คนที่จะได้รับการอพยพออกจากเมือง Madaya และ Zabadani ที่ถูกกองกำลังชีอะห์ปิดล้อมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเช่นกัน

การอพยพเพื่อแลกเปลี่ยตัวพลเรือนเกิดขึ้นโดยมีอิหร่าน และผู้แทนฝ่ายต่อต้านซีเรียจากกาตาร์เป็นผู้แทนเจรจา ซึ่งตกลงในการอพยพคน 30,000 คน ภายในเวลา 60 วัน

ภายใต้ข้อตกลงเบื้องต้น จะมีการอพยพคนออกจาก 2 เมืองของชาวชีอะห์ในจังหวัดอิดลิปรวม 8,000 คน รวมทั้งกลุ่มนักรบชีอะห์ 2,000 คน แต่เมื่ออพยพจริงกลับมีเพียง 5,000 คนซึ่งเป็นกลุ่มนักรบชีอะห์สูงถึง 1,300 คน

รายงานจากกลุ่มสังเกตุการระบุว่า ขบวนอพยพต้องหยุดลงที่เมือง Rashidin ทางตะวันตกของ Aleppo เมื่อวันศุกร์(14)หลังจากการอพยพไม่ตรงตามเงื่อนไขของข้อตกลง โดยรายงานก่อนเกิดเหตุระบุว่า “กำลังเจรจากันอยู่”

ผู้อพยพจำนวนหลายพันรายจากเมือง Madaya และ Zabadani ยังคงติดอยู่ในที่เมือง Ramousa ที่ตกอยู่ภายใต้การยึอครองของระบอบบาชาร์ ทางตอนใต้ของอเลปโป เพื่อเตรียมเดินทางต่อไปยังปลายทางในจังหวัดอิดลิป พื้นที่ปกครองของฝ่ายต่อต้านซีเรีย

ด้านมูฮัมหมัด ดาร์วิช หมอซึ่งเดินทางมาจากเมือง Madaya บอกกับอัลญะซีเราะห์ทางโทรศัพท์ว่ามีความกลัวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในหมู่พลเรือนที่อยู่บนรถบัส และติดค้างอยู่ในเมือง Ramousa

“มีความกลัวอยู่มากบนรถบัสของเราโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีทหารของระบอบการปกครองบาชาร์ อัล-อัสซาด อยู่ที่นี่และ มีฝูงชนจำนวนมากอยู่รอบ ๆ ตัวเรา” เขากล่าว

“เราหวังว่าสหประชาชาติ ตุรกี กาตาร์ อิหร่าน และทุกคนที่สนับสนุนข้อตกลงนี้จะดูแลพลเรือน และให้ความมั่นใจว่าพวกเขาจะมาปลายทางได้อย่างปลอดภัย”

แต่หลายชั่วโมงหลังเกิดเหตุระเบิดการอพยพได้เดินหน้าต่อ โดยรถบัสหลายสิบคันที่นำผู้บาดเจ็บไปยังจุดหมายหลายทางเมื่อก่อนเที่ยงคืนของวันเสาร์ โดยรถบัสทั้ง 120 คันจากทั้งสองฝ่ายถึงปลายทางแล้ว

ข้อตกลงในการอพยพเป็นข้อตกลงล่าสุดในรูปแบบของข้อตกลงซึ่งเกิดขึ้นระหว่างระบอบการปกครองบาชาร์ อัล-อัสซาด และฝ่ายต่อต้านซีเรีย เพื่อหวังจะมุ่งสู่การยุติการสู้รบ แต่ฝ่ายต่อต้านซีเรียระบุว่าดินแดนของพวกเขายังคงถูกปิดล้อม และโจมตีด้วยการทิ้งระเบิดจากเครื่องบิน

ระบอบการปกครองของบาชาร์ อัล-อัสซาด กลับมามีสถานการณ์ที่เหนือฝ่ายประชาชนชาวซีเรียอีกครั้ง หลังรัสเซียยืนมือเข้าช่วยในการส่งกำลังทหาร และอาวุธทันสมัยเข้าปฎิบัติการในซีเรียเมือเดือนกันยายน 2015

ความคิดเห็น

comments