ศูนย์การช่วยเหลือผู้ประสบภัย และการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของกษัตริย์ซาลมาน (KSRelief) ได้จัดส่งความช่วยเหลือด้านอุปกรณ์การแพทย์แก่พลเรือนชาวเยเมน
โครงจัดส่งความช่วยเหลือด้านสุขภาพ และการแพทย์ของ KSRelief ดำเนินโครงการในเยเมนและในซาอุดิอาระเบียโดยร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข และองค์กรเสี้ยววงเดือนแดงในอัมมาน และองค์กรเสี้ยววงเดือนแดงของซูดาน
เจ้าหน้าที่ศูนย์ KSRelief บอกว่าพวกเขามีความมุ่งมั่นที่จะรักษาผู้ป่วยชาวเยเมนและให้การดูแลญาติของพวกเขาจนกว่าพวกเขาจะเดินทางกลับประเทศ พวกเขากำลังจัดตั้งคลินิกทางการแพทย์ในจังหวัดอับฮะ ในสาธารณรัฐจิบูตีและดำเนินการเพื่อให้การรักษาพยาบาลแก่ผู้ลี้ภัยชาวเยเมนในค่ายซึ่งคอยดูแลผู้ลี้ภัยกว่า 2,550 ราย
ศูนย์ยังดำเนินโครงการในการบริการด้านสุขภาพเพื่อรักษาพลเรือนที่ได้รับบาดเจ็บในเยเมนด้วย
KSRelief ได้จัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ส่งไปยังพื้นที่ Aden, Hadramout, Marib, Saada และ Taiz ซึ่งมีจำนวนผู้ป่วยที่ได้รับการรักษามีถึง 22,500 ราย
KSRelief ดำเนินการภายใต้การร่วมมือของเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของประเทศซูดานเพื่อให้บริการทางการแพทย์ในเยเมน พวกเขาให้บริการทางการแพทย์ฉุกเฉินแก่ผู้หญิงและเด็กเยเมนเพื่อลดอัตราป่วยและอัตราการตาย ตามโครงการนี้จะให้การดูแลประชาชน 7.5 ล้านคน
นอกจากนี้ยังมีการโรงการเพิ่มเติมในการดูแลเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปีนอกเหนือจากสตรีตั้งครรภ์และให้นมบุตร ที่มีจำนวนประชาชนในสัดส่วนนี้ราว 2.7 ล้านคน
การสนับสนุนด้านสุขอนามัยและสิ่งแวดล้อมจำพวกน้ำ และน้ำดื่ม KSRelief ได้เข้าช่วยเหลือในส่วนนี้ในเมือง Aden, Taiz, Sanaa, Lahj และ Ibb ที่จะมีประชาชนได้รับประโยชน์จำนวนถึง 13.3 ล้านคน
นอกจากนี้ KSRelief ยังเปิดศูนย์ให้บริการที่โรงพยาบาล Al-Salam ในเมือง Saada ในการช่วยเหลือประชาชน 356,322 คน
การทำเนินการของ KSRelief ที่โรงพยาบาล Saudi Hospital ในเมือง Hajah โดยการจัดหาเครื่องมือทางการแพทย์ สำหรับบริการทางการแพทย์ต่อประชาชน 270,000 คน
นอกจากนี้ยังมีการให้บริการเฉพาะด้านสำหรับผู้ป่วยโรคหัวรใจที่โรงพยาบาลทหารใน Sanaa สำหรับการบริการประชาชน 15,300 คน
นอกจากนี้ KSRelief ยังได้จัดตั้งและดำเนินการให้ความช่วยเหลือที่โรงพยาบาล Marib General Hospital ซึ่งให้บริการเครื่องมือทางการแพทย์และการดูแลและทดสอบผู้ป่วยใน Marib ที่จะให้บริการประชาชน 74,480 คน
ขณะที่ศูนย์การบรรเทาทุกข์เพื่อชาวโซมาเลียของซาอุดีอาระเบีย ยังได้ดำเนินการในการขุดบ่อน้ำสองแห่งพร้อมกับสร้างโรงกลั่นน้ำในค่ายผู้ลี้ภัยเยเมนในจังหวัด Abkh ในสาธารณรัฐจิบูตีเพื่อจัดหาน้ำดื่มให้กับผู้อพยพชาวเยเมนด้วย