สื่อเกาหลีเหนือออกคำข่มขู่จีน พันธมิตรหลักและผู้สนับสนุนทางการทูตของประเทศยาวนาน พร้อมระบุว่าจีนควรสำนึกในการที่มีประเทศนี้คอยคุ้มครอง
สำนักกลางเกาหลีของทางการ (KCNA) รายงานบทวิจารณ์ที่เตือนถึง “ผลลัพธ์ร้ายแรงที่จะตามมา” หากจีนทดสอบความอดทนของพวกเขาไปมากกว่านี้
แม้ที่ผ่านมาจีน และเกาหลีเหนือ มีความสัมพันธ์ยาวนานมาจากการนองเลือดในสงครามเกาหลี โดยที่จีนยังคงเป็นผู้สนับสนุนด้านความช่วยเหลือ และการค้ารายสำคัญของประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้ แต่ความสัมพันธ์ของทั้งสองเริ่มตกต่ำลงในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เนื่องจากจีนไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆ กับความทะเยอทะยานด้านนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ที่จะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดวิกฤตในภูมิภาค
จีนมักเรียกร้องให้ฝ่ายต่างๆ หลีกเลี่ยงการเพิ่มความตึงเตรียดซึ่งอาจสื่อถึงทั้งสหรัฐอเมริกา และเกาหลีเหนือ และเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ จีนประกาศระงับการนำเข้าถ่านหินจากเกาหลีเหลือสำหรับช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ ทำให้เกาหลีเหนือขาดแหล่งรายได้จากสกุลเงินต่างชาติที่สำคัญ
สื่อทางการจีนเรียกร้องให้มีการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือหนักกว่านี้หากมีการทดสอบนิวเคลียร์อีกครั้ง พร้อมเรียกร้องให้เกาหลีเหนือ “อย่ากระทำสิ่งผิดพลาดในตอนนี้” และพูดถึงความจำเป็นสำหรับเกาหลีเหนือที่จะต้องละทิ้งโครงการนิวเคลียร์
บทวิจารณ์ของ KCNA ที่ลงชื่อ “คิม โชล” โดยเชื่อว่าเป็นนามปากกา ประณาม “ความคิดเห็นที่ไม่มีการไตร่ตรอง” นี้ และระบุว่าไม่มีอะไรจะสั่นคลอนความตั้งใจของเกาหลีเหนือได้
“DPRK จะไม่ร้องขอให้จีนรักษาความเป็นมิตร หากมันไม่เป็นผลดีต่อโครงการนิวเคลียร์ที่มีค่าเท่ากับชีวิตของตนเอง” บทวิจารณ์นี้ระบุ โดยเรียกเกาหลีเหนือด้วยชื่ออย่างเป็นทางการ คือสาธารณรัฐประชาธิปไตยเกาหลี (DPRK)
บทวิจารณ์เสริมว่า เปียงยางทำหน้าที่เป็นเขตกันชนระหว่างจีน และสหรัฐอเมริกานับตั้งแต่สงครามเกาหลีในช่วงทศวรรษ 1950 “มีส่วนช่วยปกป้องสันติภาพและความมั่นคงของจีน” และว่า จีนควร “ขอบคุณ DPRK สำหรับเรื่องนี้”
จีนไม่ควรลองทดสอบขีดจำกัดความอดทนของเกาหลีเหนือ บทวิจารณ์ระบุ และเตือนว่า “จีนควรครุ่นคิดให้มากกว่านี้เกี่ยวกับผลลัพธ์ร้ายแรงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงจากการตัดแกนความสัมพันธ์ DPRK-จีน”
บทวิจารณ์นี้เป็นสัญญาณของระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่ตกต่ำลง ผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จองอึน ยังไม่เคยไปเยือนกรุงปักกิ่งหลังจากขึ้นสู่อำนาจมากกว่า 5 ปี
ในขณะเดียวกัน สหรัฐอเมริกากำลังผลักดันจีนให้เพิ่มแรงกดดันต่อเกาหลีเหนือให้มากกว่านี้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน เตือนคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติถึง “ผลลัพธ์ร้ายแรง” หากประชาคมโลกโดยเฉพาะจีนไม่อาจกดดันให้เกาหลีเหนือละทิ้งโครงการอาวุธ
รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจีน หวัง อี้ ไม่ให้น้ำหนักกับความคิดเห็นของทิลเลอร์สัน และกล่าวว่า “ปัจจัยสำคัญในการแก้ปัญหานิวเคลียร์บนคาบสมุทรนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับฝ่ายจีน”
