เจ้าหน้าที่ศุลกากรมาเลเซียยึดเกล็ดตัวนิ่มหนักกว่า 700 กิโลกรัม การยึดเกล็ดตัวนิ่มซึ่งบางคนมองว่ามีสรรพคุณทางยาครั้งใหญ่ของประเทศนี้ เจ้าหน้าที่กล่าวในวันจันทร์ (8 พฤษภาคม)
การยึดทรัพย์สินมูลค่าถึง 9,184,800 ริงกิต (ราว 73 ล้านบาท) เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจากการตรวจยึดสองครั้ง
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม กระสอบ 8 ถุงที่บรรจุเกล็ดตัวนิ่มหนัก 408 กิโลกรัม ถูกพบที่คลังสินค้าของสนามบินกัวลาลัมเปอร์ กระสอบเหล่านี้เชื่อว่ามาจากเที่ยวบินจากมากรุงอักกรา ประเทศกานา ซึ่งแวะเปลี่ยนเครื่องที่ดูไบ
สองวันต่อมา กระสอบอีก 10 ถุงหนัก 304 กิโลกรัมถูกพบและถูกยึด มันน่าจะมาจากเที่ยวบินจากคินซาซาของดีอาร์คองโกไปไนโรบีของเคนยา และแวะเปลี่ยนเครื่องที่ดูไบก่อนจะมาถึงกัวลาลัมเปอร์
เจ้าหน้าที่มาเลเซียระบุว่า พวกเขากำลังดำเนินการสืบสวนกันอยู่
ตัวนิ่มเป็นสัตว์เป็นท้องถิ่นในป่าทึบของอินโดนีเซีย บางส่วนของมาเลเซีย และพื้นที่ภาคใต้ของไทย และเนื้อของมันถูกมองว่าเป็นอาหารราคาแพงในจีน
พวกมันถูกจัดให้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการค้าสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ของสหประชาชาติและการค้าสายพันธ์ตัวนิ่มในเอเชียใดๆ ก็ตามระหว่างประเทศถูกห้ามภายใต้อนุสัญญานี้
เกล็ดสีน้ำตาลของตัวนิ่มประกอบด้วยเคราตินเพียงอย่างเดียว สารประกอบอย่างเดียวกับเล็บมือ แต่มีราคาสูงมากในเวียดนามและจีนซึ่งพวกเขามีความเข้าใจผิดว่ามันมีสรรพคุณทางยา
ด้วยความต้องการสินค้าที่สูงมากทำให้ตัวนิ่มประมาณหนึ่งล้านตัวหายไปจากป่าในเอเชียและแอฟริกาในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ส่งผลให้พวกมันอยู่ในรายชื่อสัตว์ที่มีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์มากที่สุด
เจ้าหน้าที่สัตว์ป่าระบุว่า ตัวนิ่มกำลังเผชิญกับภัยคุกคามร้ายแรงจากพรานเถื่อนแลผู้ลักลอบค้าของเถื่อนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การมีบทลงโทษไม่เพียงพอและการขาดข้อมูลทำให้การค้านี้ยิ่งแพร่หลาย
