ทหารพม่าซัด UN กล่าวหารายงานเท็จเรื่องโรฮิงญา

กองทัพพม่าปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนระหว่างการปราบปรามชาวมุสลิมโรฮิงญาเมื่อปีก่อน ที่สหประชาชาติระบุในรายงานเกี่ยวกับการโจมตี ที่ทำให้ชาวโรฮิงญากว่า 75,000 คน ต้องหลบหนีเข้าไปในเขตแดนบังกลาเทศ

การปราบปรามของทหารที่เกิดขึ้นด้วยข้ออ้างเรื่องการตอบโต้กลุ่มก่อความไม่สงบที่ก่อเหตุโจมตีด่านตรวจชายแดนเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ปีที่ผ่านมา

รายงานของสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชน (OHCHR) ที่เผยแพร่เมื่อเดือน กุมภาพันธ์ 2560 ระบุว่า กองกำลังรักษาความมั่นคงของพม่าก่อเหตุสังหารหมู่ และรุมข่มขืนชาวโรฮิงญาในการปราบปรามที่อาจเทียบเคียงได้กับการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชนชาติ และการล้างเผ่าพันธุ์

แต่ในวันอังคาร (23) กองทัพรอ้างว่า ผลการสืบสวนของกองทัพภายใต้การนำของ พล.ท.เอ วิน เผยให้เห็นว่า ข้อกล่าวหาเหล่านั้นเป็นความเท็จ และสร้างขึ้น

“จาก 18 ข้อกล่าวหา ที่ปรากฏอยู่ในรายงานของ OHCHR มีข้อกล่าวหา 12 ข้อที่พบว่าไม่ถูกต้อง และข้อกล่าวหาที่เหลืออีก 6 ข้อ พบว่าเป็นข้อกล่าวหาเท็จ และเป็นข้อกล่าวหาที่สร้างขึ้นจากคำโกหก” สื่อทางการพม่าอ้างรายงานของทีม “True News” ของกองทัพ

รายงานระบุว่า ผู้สืบสวนของทหารได้สัมภาษณ์ชาวบ้านเกือบ 3,000 คน จาก 29 หมู่บ้าน และได้บันทึกคำให้การของชาวบ้าน 408 คน และเจ้าหน้าที่ทหาร 184 นาย มีทหารชั้นผู้น้อย 3 นาย ถูกจำคุกจากการกระทำความผิดเล็กน้อย เช่น ขโมยรถจักรยานยนต์ หรือทุบตีชาวบ้าน ขณะที่หัวหน้าหมู่บ้าน และชาวบ้านจำนวนหนึ่งถูกเฆี่ยน และมี 2 คน ถูกจำคุก เหตุเพราะไม่ช่วยดับไฟ

นอกจากการสอบสวนของทหารแล้ว ยังมีคณะทำงานระดับชาติที่นางอองซานซูจี ตั้งขึ้นในเดือน ธันวาคม ซึ่งมีรองประธานาธิบดีมี้น ส่วย เป็นหัวหน้าคณะ กำลังตรวจสอบข้อกล่าวหาต่างๆ เช่นกัน ขณะที่กระทรวงมหาดไทย ที่กองทัพควบคุมอยู่ ยังดำเนินการสืบสวนแยกออกไปอีกชุดหนึ่งด้วย

ทั้งทหาร และรัฐบาลพลเรือนของนางอองซานซูจี ต่างปฏิเสธข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการทารุณกรรมชาวโรฮิงญา และปฏิเสธที่จะอนุญาตให้คณะค้นหาความจริงของสหประชาชาติดำเนินการสืบสวนโดยอิสระในพื้นที่ยะไข่ด้วย

ความคิดเห็น

comments