จากเหตุคนร้ายก่อเหตุโจมตีสถานที่ความมั่นคงสูง 2 จุดในอิหร่าน ทั้งที่อาคารรัฐสภา และสุสานโคมัยนีย์ ซึ่งเป็นสถานที่สำกรับจากริกแสวงบุญของชาวชีอะห์ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 17 คน ซึ่งกลุ่มดาอิชรับว่าสมาชิกของกลุ่มเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ ขณะที่กองกำลังพิทักษ์การปฎิวัติอิหร่านอ้างว่าการยอมรับของดาอิชคือหลักฐานว่าซาอุดิอาระเบียอยู่เบื้องหลังการโจมตี แต่ล่าสุดรองประธานสภาความมั่นคงอิหร่านยอมรับว่าผู้ก่อเหตุเป็นชาวอิหร่านที่เข้าร่วมกับดาอิช
Reza Seifollhai รองประธานสภาความมั่นคงอิหร่าน กล่าวในการให้สัมภาษณ์ต่อสถานีโทรทัศน์ของทางการอิหร่านโดยยอมรับว่า ผู้ก่อเหตุโจมตีมาจากภายในของอิหร่านเอง
“เกี่ยวกับอัตลักษณ์ของผู้ก่อเหตุ บอกให้รู้ว่าพวกเขามาจากส่วนต่างๆ ของอิหร่าน และเข้าร่วมกับดาอิช” เขากล่าว
ด้านสถานีโทรทัศน์ของทางการอิหร่านรายงานการเปิดเผยของทางการอิหร่านระบุว่า “ผู้ต้องหา 5 คนที่ถูกจับเป็นผู้ก่อการร้ายชาวอิหร่านที่ก่อนหน้านี้พวกเขาออกจากอิหร่าน และไปเข้าร่วมกับดาอิชในเมืองเราะเกาะ และโมซุล”
“เมื่อปีที่แล้วพวกเขากลับมายังอิหร่านเพื่อดำเนินการโจมตีต่อสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของอิหร่าน” รายงานระบุ
ขณะที่ Majid Rafizadeh ผู้เชี่ยวชาญด้านอิหร่านจากมหาวิทยาลัย Harvard กล่าวว่าดาอิชมักฉวยโอกาส และออกมาประกาศรับผิดชอบอย่างรวดเร็วต่อการโจมตีใหญ่ โดยไม่ได้แสดงหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวอ้างดังกล่าว
“การก่อเหตุโจมตีโดยทั่วไป จะมุ่งเป้าไปที่สัญลักษณ์ทางการเมือง หรืออุดมการณ์ แทนที่พุ่งเป้าไปที่พลเรือน แต่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับดาอิช” เขาเขียนไว้ในคอลัมน์ของเขา
“การโจมตียังก่อให้เกิดคำถามมากมายรวมถึงการที่ผู้โจมตีสามารถประสานงานการโจมตีที่มีความซับซ้อนสูงเช่นนี้ในสถานที่ที่มีความปลอดภัยสูง ของอิหร่านได้อย่างไร” เขากล่าว
“การโจมตีรัฐสภา และสุสานโคมัยนีย์(ศาสนสถานสำคัญของชีอะห์) คือการโจมตีไปที่สัญลักษณ์สำคัญทางการเมืองของอิหร่าน และอุดมการณ์แห่งการปฎิวัติชีอะห์” เขากล่าวเสริม
ที่มา รอยเตอร์