ศาลในกรุงเฮกพิพากษายืนตามการตัดสินของศาลชั้นต้นในปี 2014 ซึ่งระบุว่ารัฐบาลเนเธอร์แลนด์ต้องมีส่วนร่วมในความรับผิดชอบสำหรับการสังหารหมู่ชาวมุสลิมกว่า 300 รายใน Srebrenica
สำนักข่าวอัลญะซีเราะห์รายงานว่า ศาลอุทธรณ์เนเธอร์แลนด์ได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นว่าเนเธอร์แลนด์ต้องเป็นส่วนหนึ่งของความรับผิดต่อการเสียชีวิตของชาวมุสลิมประมาณ 300 รายที่ถูกไล่ออกจากสำนักงานสหประชาชาติของเนเธอร์แลนด์ทั้งที่บริเวณโดยรอบถูกล้อมรอบด้วยกองกำลัง Bosnian Serb ซึ่งรอที่จะฆ่าชาวมุสลิมกลุ่มดังกล่าว
คำตัดสินของศาลศาลอุทธรณ์กรุงเฮกย้ำว่าการตัดสินของศาลชั้นต้นที่นายทหารรักษาความปลอดภัยชาวดัตช์ขับไล่พวกผู้ชายที่แสวงหาที่หลบภัยที่ฐานทัพทหารสหประชาชาติ ในหมู่บ้าน Potocari จากการไล่สังหารโหดของกองกำลังชาว Srebrenica
ชาวมุสลิมที่กำลังหาที่หลบภัยในหมู่บ้านกว่า 8,000 คนที่เสียชีวิตในการสังหารหมู่เมื่อเดือนกรกฎาคม 1995 ซึ่งศาลยุติธรรมระหว่างประเทศของสหประชาชาติได้เริ่มพิจารณาคดีการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ในปี 2007
การพิจารณาคดีในวันอังคารถูกมองว่าเป็นคำตัดสินที่เกิดขึ้นทั้งที่กองกำลังภายใต้การดำเนินการของสหประชาชาติจะได้รับการคุ้มครองจากการฟ้องร้องดำเนินคดีต่างๆ
ชาวมุสลิมที่ตกเป็นเหยื่อจำนวนมากได้หลบหนีไปที่ “เขตปลอดภัย” ของสหประชาชาติใน Srebrenica เพื่อหากองกำลังเนเธอร์แลนด์ที่มีจำนวนน้อยและมีอาวุธเบาที่ไม่สามารถปกป้องพวกเขาได้ จากนั้นพวกเขาก็มุ่งหน้าไปยังฐานดัตช์ที่อยู่ใกล้เคียง
การอ่านคำตัดสินของประธานผู้พิพากษา Gepke Dulek-Schermers กล่าวว่าทหารชาวดัตช์ “รู้หรือควรจะรู้ว่าผู้ชายเหล่านี้จะไม่ได้แค่ถูกตรวจสอบเท่านั้น … แต่จริงแล้วพวกเขาตกอยู่ในอันตรายจากการถูกทรมาน หรือถูกฆ่า”
คดีนี้เกี่ยวข้องกับชาย 300 คนที่ต้องการความปลอดภัยในฐานสหประชาชาติที่ควบคุมโดยชาวดัตช์
ศาลกล่าวว่าเนเธอร์แลนด์ควรจ่ายเงินเพียง 30 เปอร์เซ็นต์ของความเสียหาย จากที่คาดว่าจำนวนเหยื่อ 70 เปอร์เซ็นต์ถูกฆ่าจากสิ่งที่ทหารดัตช์ทำ
จำนวนเงินค่าเสียหายจะได้รับการแยกจากกัน เว้นแต่บุคคลที่ตกเป็นเหยื่อและรัฐจะสามารถหาข้อยุติได้
ทนายความของรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ออกจากศาลโดยไม่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับคำตัดสิน
รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ลาออกหลังจากยอมรับความล้มเหลวในการปกป้องผู้ลี้ภัยในปี 2002 แม้ว่าเนเธอร์แลนด์จะยืนยันว่าชาวบอสเนียเซอร์เบียต้องรับผิดชอบต่อการสังหารหมู่ชาวมุสลิม ไม่ใช่ชาวดัตช์
