ยูเครนระบุในวันเสาร์ (1 กรกฎาคม) ว่า หน่วยงานความมั่นคงของรัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีทางไซเบอร์ต่อยูเครนเมื่อไม่นานมานี้ และกล่าวว่า เป้าหมายคือเพื่อทำลายข้อมูลสำคัญและสร้างความตื่นกลัว
เอสบียู หน่วยงานความมั่นคงของยูเครน ระบุว่า การโจมตีดังกล่าวซึ่งเริ่มขึ้นในยูเครนและแพร่กระจายทั่วโลกเมื่อวันอังคาร (27) เป็นฝีมือของแฮกเกอร์คนเดียวกับที่โจมตีระบบไฟฟ้าของยูเครนเมื่อเดือนธันวาคมปี 2016 นักการเมืองยูเครนโทษทันทีว่าเป็นฝีมือรัสเซีย แต่โฆษกเครมลินระบุว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวไร้หลักฐาน
บริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์กำลังพยายามหาตัวผู้อยู่เบื้องหลังไวรัสคอมพิวเตอร์ดังกล่าวที่ผู้เชี่ยวชาญบางคนเรียกว่า น็อตเพตยา (Notpetya) ที่ทำให้คอมพิวเตอร์หยุดทำงาน รบกวนการขนส่งสินค้าทั่ว 60 ประเทศ และปิดระบบโรงงานช็อกโกแลตแห่งหนึ่งออสเตรเลีย
“ข้อมูลที่มีอยู่รวมถึงที่ได้รับจากการร่วมมือกับบริษัทต่อต้านไวรัสนานาชาติทำให้เราเชื่อว่า กลุ่มแฮกเกอร์เดียวกันนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีระบบการเงิน การขนส่ง และระบบไฟฟ้าของยูเครนด้วยการใช้ไวรัส TeleBots และ BlackEnergy” เอสบียู กล่าว
“สิ่งนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าหน่วยงานพิเศษของสหพันธรัฐรัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีนี้”
รัสเซียและยูเครนขัดแย้งกันนับตั้งแต่ที่รัสเซียควบรวมไครเมียในปี 2014 ในถ้อยแถลงเมื่อวันศุกร์ (30) เอสบียู กล่าวว่า พวกเขายึดอุปกรณ์ที่พวกเขาระบุว่าเป็นของที่สายลับรัสเซียใช้ในการโจมตีทางไซเบอร์ต่อยูเครนและประเทศอื่นๆ ในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน”
“จุดประสงค์หลักของไวรัสนี้คือการทำลายข้อมูลสำคัญ รบกวนการทำงานของรัฐและสถาบันเอกชนในยูเครนและกำลังแพร่กระจายความตื่นกลัวในหมู่ประชาชน” เอสบียู พูดถึงการโจมตีเมื่อไม่นานมานี้
การโจมตีทางไซเบอร์เมื่อเดือนธันวาคมต่อระบบพลังงานของยูเครนทำให้เกิดไฟฟ้าดับในตอนเหนือของกรุงเคียฟ
กระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานความมั่นคงกลางยังไม่ได้ตอบสนองต่อคำขอความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อกล่าวหาล่าสุดนี้