ตำรวจพม่าหันหลังปล่อยม็อบยะไข่ฆ่าโรฮิงญาตาย 1 เจ็บ 6

เจ้าหน้าที่ตำรวจหนีออกจากที่เกิดเหตุขณะกลุ่มม็อบเข้าทำร้ายชาวมุสลิมโรฮิงญา ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย วันนี้ (5) ในเหตุความรุนแรงครั้งล่าสุดที่ทำให้ความตึงเครียดระหว่างสองชุมชนในรัฐยะไข่พุ่งสูงอีกครั้ง

กลุ่มชาตินิยมชาวพุทธยะไข่ขว้างปาอิฐใส่กลุ่มชายชาวโรฮิงญาในเมืองสิตตะเว เมื่อวันอังคาร (4) เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน คือ นายหม่อง นู หรือโมนี อาหมัด อายุ 55 ปี บาดเจ็บ 6 ราย โดย 2 รายยังคงต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ตามคำแถลงของสำนักงานที่ปรึกษาแห่งรัฐ

เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย เปิดเผยต่อรอยเตอร์ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้น้อยไร้อาวุธนายหนึ่ง เดินทางไปพร้อมกับกลุ่มชายชาวมุสลิมในช่วงที่เกิดเหตุโจมตี และไม่สามารถปกป้องกลุ่มชาวมุสลิมโรฮิงญาจากกลุ่มม็อบไว้ได้

“เราสอบตำรวจนายนั้น เขาบอกว่า เขาพยายามที่จะหยุดกลุ่มม็อบแต่ไม่สามารถทำได้ เลยวิ่งกลับไปที่สถานีตำรวจ” โฆษกกระทรวงมหาดไทยในกรุงเนปีดอ กล่าว

ไม่มีใครถูกจับกุมจากเหตุโจมตีดังกล่าว และเจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

เมื่อวันอังคาร (4) ชายชาวมุสลิม 7 คน เดินทางมายังเมืองสิตตะเว จากค่ายพักชั่วคราวที่ตั้งอยู่บริเวณชานเมือง ซึ่งเป็นที่อยู่สำหรับผู้ไร้ที่อยู่อาศัยจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่กลุ่มชาวยะไข่บุกเผาบานเรือนชาวโรฮิงญาในปี 2555 ทั้ง 7 คน มีปากเสียงกับชายชาวยะไข่รายหนึ่งเกี่ยวกับการซื้อขายเรือ ซึ่งการโต้เถียงดังกล่าวทำให้ชาวยะไข่บริเวณใกล้เคียงเข้ามาก่อเหตุโจมตีขึ้น

“คนพวกนั้นไม่ได้โจมตีตำรวจเพราะมีเชื้อชาติเดียวกัน” เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่ง กล่าว

พม่าไม่ยอมรับว่าชาวมุสลิมโรฮิงญามากกว่า 1 ล้านคนในรัฐยะไข่เป็นพลเมืองของประเทศ และกลุ่มชาตินิยมพม่าพยายามกล่าวหาว่าชาวโรฮิงญาเป็นผู้อพยพผิดกฎหมายจากบังกลาเทศ

โฆษกกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจในที่เกิดเหตุไม่มีอาวุธ และไม่มีประสบการณ์ ทำให้ไม่สามารถปกป้องชาวโรฮิงญากลุ่มดังกล่าวได้ และแม้ว่าความจริงแล้ว กลุ่มชาวมุสลิมโรฮิงญาจะมีตำรวจคุ้มกัน แต่พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าว

ทั้งนี้กระทรวงมหาดไทยกลับไม่ได้ชี้แจงว่าเหตุใดชาวโรฮิงญาที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว แต่กลับมีตำรวจคุ้มกันเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวก่อนจะทิ้งให้พวกเขาถูกฆ่าตายอย่างป่าเถื่อน

โดยนับตั้งแต่เกิดเหตุความรุนแรงในปี 2555 ชาวมุสลิมถูกจำกัดขอบเขตอยู่ในค่ายพัก หรือเขตพิเศษของเมือง ไม่สามารถที่จะเดินทางได้อย่างเสรีโดยไม่มีตำรวจคุ้มกัน

สำนักข่าวอิระวดีรายงานว่า ตำรวจ และทหารพม่าราว 100 นายพร้อมอาวุธครบมือ และรถบรรทุกทางทหารหลายสิบคัน ได้เดินทางไปยังค่ายพักชาวโรฮิงญา Dapaing สำหรับการนำศพผู้เสียชีวิตมาส่งในค่ำวันอังคารที่ผ่านมา

ความคิดเห็น

comments