กองกำลังของระบอบบาชาร์ อัล-อัสซาด และรัสเซีย ยังคงพุ่งเป้าโจมตีเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยในซีเรีย โดยพบว่าแค่ครึ่งปีแรกของปี 2017 มีผู้ถูกฆ่าตายไปแล้ว 49 คน ตามรายงานของเครือข่ายสิทธิมนุษยชนแห่งซีเรีย (SNHR)
ในรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีที่(6 กรกฎาคม)ผ่านมา SNHR เผยว่ามีรายงานการเสียชีวิตของบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยในช่วงครึ่งแรกของปี 2017 จำนวน 69 คน
โดย 33 คนถูกฆ่าตายโดยกองกำลังของบาชาร์ อัล-อัสซาด
ขณะที่ 16 คนถูกฆ่าตายโดยกองทัพรัสเซีย
4 คนถูกฆ่าโดยกลุ่มดาอิช
2 คนถูกฆ่าโดยกองทหารรักษาการณ์ประชาธิปไตยซีเรีย (SDF) ซึ่งเป็นพันธมิตรของสหรัฐอเมริกาในการต่อต้านดาอิช
1 คนถูกฆ่าโดยกองกำลังพันธมิตรของสหรัฐอเมริกาในการต่อต้านดาอิช
ส่วนที่เหลือยังไม่สามารถยืนยันได้ว่ากลุ่มใดเป็นผู้สังหาร
โดยกองกำลังของระบอบการปกครองบาชาร์ อัล-อัสซาดได้ดำเนินการในการสังหารหมอ 8 คน พยาบาล 9 คน เภสัชกร 2 คน อาสาสมัครในสังกัดขององค์กรเสี้่ยววงเดือนแดงอาหรับซีเรีย 2 คน เจ้าหน้าที่อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน 9 คน และเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์อีก 3 คน
กองกำลังของระบอบบาชาร์ อัล-อัสซาด ยังคงพุ่งเป้าโจมตีเป้าหมายที่โรงพยาบาลและศูนย์ทางการแพทย์หลายแห่งในพื้นที่ฝ่ายต่อต้านซีเรีย ประกอบด้วยโรงพยาบาลส่วนใหญ่ในชนบท Hama และพื้นที่ชนบทใน Idlib และพื้นที่ชนบทของ Aleppo
SNHR รายงานด้วยว่าตลอดปี 2016 ที่ผ่านมา มีบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่กู้ภัย 167 คนถูกฆ่าตาย
เครือข่ายสิทธิมนุษยชนแห่งซีเรีย ยังได้เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติดำเนินการทางกฎหายต่อผู้ที่ดำเนินการในการโจมตีสถานบริการแพทย์ และศูนย์ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนในซีเรีย และประชาคมระหว่างประเทศไม่ควรนิ่งเฉยต่อเหตุนองเลือดที่เกิดขึ้นทุกวันในซีเรีย
SNHR เรียกร้องให้องค์กรระหว่างประเทศส่งอาสาสมัครไปทำงานในพื้นที่ที่ปลอดภัยเพื่อช่วยในการช่วยเหลือผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการทิ้งระเบิด และผู้ป่วยอื่น ๆ ที่ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากอันเนื่องมาจากการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความสามารถในปัจจุบัน
ที่มา National Coalition of Syrian Revolution and Opposition Forces
