คูเวตสั่งยุติความสัมพันธ์กับอิหร่านทุกด้าน “การทหาร, การค้า และวัฒนธรรม” หลังสั่งขับนักการทูตอิหร่าน 15 คนพบข้อมูลเชื่อมโยงกับการก่อการร้าย ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่คูเวต
ทางการคูเวตได้มีคำสั่งเมื่อวันพฤหัสบดี(20 กรกฎาคม)สั่งขับนักการทูตอิหร่านอย่างน้อย 15 คนออกนอกประเทศ หลังศาลสูงตัดสินคดีก่อการร้ายของสมาชิกชาวชีอะห์ที่เชื่อมโยงกับเจ้าหน้าที่ทางการอิหร่าน ตามการเปิดเผยของสำนักข่าว AFP
ศาลสูงแห่งรัฐตัดสินประหารชีวิต และจำคุก ผู้ต้องหากว่า 20 คน ในความผิดวางแผนก่อการร้ายโจมตีคูเวต โดยกลุ่มเหล่านี้มีเชื่อมโยงกับ อิหร่าน และฮิสบุลลาตของเลบานอน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เชค Mohammad Abdullah Al-Sabah ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสารสนเทศคูเวต ยืนยันว่ามีการดำเนินการดังกล่าวจริง แต่ปฎิเสธที่จะให้รายละเอียดในการดำเนินการดังกล่าว
“หลังมีคำตัดสินของศาลสูงในเรืองนี้ … รัฐบาลคูเวตได้ตัดสินใจที่จะใช้มาตรการตามหลักเกณฑ์ทางการทูต และอนุสัญญากรุงเวียนนา ในเรื่องความสัมพันธ์กับสาธารณรัฐอิหร่าน” เชคโมฮัมมัดบอกกับ AFP
การตัดสินของศาล จนนำมาซึ่งมาตรการทางการทูตของคูเวตมีขึ้นท่ามกลางความพยายามของคูเวตที่จะช่วยไกล่เกลี่ยวิกฤตทางการทูตที่เลวร้ายที่สุดของอ่าวอาหรับในรอบหลายปีที่ผ่านมา หลังจากรัฐอ่าวอาหรับที่นำโดยซาอุดิอาระเบีย ประกาศตัดความสัมพันธ์กับกาตาร์ ภายใต้ข้อกล่าวหามีความใกล้ชิดกับอิหร่าน, ฮิสบุลลาต และสนับสนุนเงินทุนให้กับกลุ่มสุดโต่ง
หนังสือพิมพ์ Al-Seyassah ของคูเวต รายงานเมื่อวันจันทร์ว่า 14 ใน 26 สมาชิกกลุ่มก่อการร้ายได้หลบหนีไปที่อิหร่านทางทะเลก่อนที่ศาลสูงจะมีคำพิพากษา
พวกเขาถูกตัดสินโดยศาลชั้นต้นเมื่อปีที่ผ่านมาให้มีความผิด แต่ได้รับการปล่อยตัวหลังจากศาลอุทธรพิพากษาแก้ให้ปล่อยตัว
ศาลสูงคูเวตมีคำตัดสินเป็นที่สุดได้พิพากษาแก้คำตัดสินของศาลอุทธร ให้จำคุกกลุ่มก่อการร้ายชาวชีอะห์ที่หลบหนีไปอิหร่านทั้ง 14 คนโดยมีอัตราโทษระหว่าง 5 – 15 ปี
กระทรวงมหาดไทยของคูเวตได้ยืนยันเมื่อวันอังคารว่าชาวชีอะห์ทั้ง 14 คนได้หลบหนี แต่ไม่ได้ออกจากประเทศในช่องทางปกติ
เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของคูเวตกล่าวว่ามีการจับกุมสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายที่มีความเชื่อมโยงกับอิหร่านดังกล่าวได้เมื่อเดือนสิงหาคม 2015 และตรวจยึดอาวุธปืน เครื่องกระสุน และวัตถุระเบิดได้จำนวนมาก
คำตัดสินของศาลสูงคูเวตระบุชัดว่ากลุ่มก่อการร้ายเหล่านี้มีการทำงานที่เชื่อมโยงกับกองกำลังพิทักษ์การปฎิวัติอิหร่าน และกลุ่มติดอาวุธชีอะห์ฮิสบุลลาตในเลบานอน โดยมีการลักลอบนำเข้าอาวุธ และวัตถุระเบิดจากอิหร่านจำนวนมากจากเข้ามาในคูเวต
