ทารกอย่างน้อย 63 คน ส่วนใหญ่เป็นทารกแรกคลอด เสียชีวิตในโรงพยาบาลรัฐอุตรประเทศในช่วง 5 วันที่ผ่านมา เชื่อเกิดปัญหาโรงพยาบาลไม่มีออกซิเจนเหลวจ่ายให้คนไข้ พบเปิดให้บริการ 2 ชั่วโมงเมื่อวันพฤหัสบดี (10 สิงหาคม) ทั้งๆ ที่ไม่มีของ สื่อแฉเหตุโรงพยาบาลไม่ยอมจ่ายเงินค้างชำระกับบริษัทอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ แม้ได้จดหมายเตือนมาตั้งแต่ต้นเดือน
BBC รายงานเมื่อวันเสาร์ (12 สิงหาคม) ว่า เจ้าหน้าที่รัฐอุตรประเทศออกมายอมรับว่า เกิดปัญหาขาดแคลนระบบออกซิเจนให้คนไข้จริง แต่ยังคงปฏิเสธว่า ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เด็กจำนวนมากต้องเสียชีวิต
โดยในแถลงการณ์ของทางโรงพยาบาลวิทยาลัยการแพทย์ บาบา รากาฟ ดาส (Baba Raghav Das Medical College) เขตโกรัคห์ปูร์ (Gorakhpur) กล่าวว่า การเสียชีวิตเริ่มต้นตั้งแต่วันจันทร์ (7) ไปจนถึงวันศุกร์ (11)
ยอดเสียชีวิตที่แค่เฉพาะเกิดขึ้นในช่วงวันพฤหัสบดี (10) และ วันศุกร์ (11) มีถึง 30 รายจากทั้งหมด 63 ราย
NDTV ของอินเดียรายงานว่า ผู้อำนวยการของโรงพยาบาลการแพทย์แห่งนี้ถูกสั่งพักงานแล้ว ในขณะที่มุขมนตรีรัฐอุตรประเทศ โยกี อดิตยานาธ (Yogi Adityanath) แถลงว่า ทางรัฐอยู่ในระหว่างการเฝ้าจับตาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด
ในเหตุการณ์ออกซิเจนเหลวขาดนี้ พบว่าผู้เสียชีวิตทั้งหมด 63 ราย ส่วนใหญ่เป็นทารกแรกคลอด
อดิตยานาธ มุขมนตรีแห่งรัฐได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี รับทราบแล้วในช่วงเช้าวันเสาร์ (12) โดยในการให้ข้อมูลยังพบว่า งบประมาณสำหรับการสั่งซื้อออกซิเจนเหลวของทางโรงพยาบาลนั้นยังไม่ได้รับการจ่ายจนกระทั่งวันศุกร์ (11) ถึงแม้ว่าจะได้รับการอนุมัติมาตั้งแต่วันเสาร์ (5) ก่อนหน้าแล้ว
แต่ทว่าทางผู้อำนวยการโรงพยาบาล ราจีฟ มิสรา (Rajeev Misra) ระบุว่าปัญหาเกิดจากระบบราชการอินเดียทำให้ล่าช้า
เว็บไซต์ข่าวโกรัคห์ปูร์นิวส์ไลน์รายงานในวันพฤหัสบดี (10) ว่า มีปัญหาวิกฤตขาดออกซิเจนเหลวขึ้นในโรงพยาบาลวิทยาลัยการแพทย์ บาบา รากาฟ ดาส ในเขตโกรัคห์ปูร์ รัฐอุตรประเทศ
โดยในรายงานระบุว่า บริษัทเครื่องมือการแพทย์ ปุชปา เซลส์ (Pushpa Sales) ซึ่งเป็นซัปพลายเออร์จัดส่งออกซิเจนเหลว ให้กับโรงพยาบาลวิทยาลัยการแพทย์แห่งนี้ “ได้ระงับการจัดส่งชั่วคราว” เป็นเพราะทางโรงพยาบาลไม่ชำระหนี้ที่ค้างจ่ายให้
ในแถลงการณ์ของทางโรงพยาบาลการแพทย์อินเดียออกมาวันศุกร์ (11) ยอมรับกับสาธารณะว่า มีคนไข้เด็กจำนวนราว 30 ราย ที่เข้ารับการรักษาเสียชีวิต หลังทางโรงพยาบาลเกิดปัญหาระบบออกซิเจนขึ้นจริง
NDTV รายงานเพิ่มเติมในรายละเอียดว่า มีเด็กจำนวน 23 รายเสียชีวิตในวันพฤหัสบดี (10) ซึ่ง 14 รายจากทั้งหมดเป็นคนไข้ในหอภิบาลทารกแรกคลอด ห้องสำหรับทารกที่คลอดก่อนกำหนด ในขณะที่เด็กอีก 9 รายเสียชีวิตวันพุธ (9) เป็นวันที่มุขมนตรีรัฐอุตรประเทศ โยกี อดิตยานาธ เดินทางมาเยี่ยม 9 รายเสียชีวิตวันจันทร์ (7) 12 รายเสียชีวิตในวันอังคาร (8) และ 3 รายเสียชีวิตในวันศุกร์ (11)
สื่ออินเดียรายงานเพิ่มเติมว่า รัฐบาลท้องถิ่นของรัฐออกมายอมรับว่า ในช่วงเวลา 2 ชั่วโมง ของวันพฤหัสบดี (10) นั้น โรงพยาบาลขนาดกว่า 800 เตียงแห่งนี้ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุด กลับเปิดให้บริการโดยที่ไม่มีออกซิเจนสำหรับคนไข้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังคงอ้างว่า สาเหตุการเสียชีวิตไม่เกี่ยวข้องกับการขาดซัพพลายออกซิเจนเหลว
รัฐมนตรีสาธารณสุขประจำรัฐอุตรประเทศ ซิดาร์ท นาธ ซิงห์ (Sidharth Nath Singh) ออกมาปฎิเสธถึงปัญหาการขาดออกซิเจนจนทำให้คนไข้เด็กต้องเสียชีวิต
ขณะที่เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลสต็อกออกซิเจนเหลวประจำโรงพยาบาลแห่งนี้ได้ส่งหนังสือด่วนช่วงเช้าวันพฤหัสบดี (10) แจ้งต่อหัวหน้าระดับสูงทางสาธารณสุข ถึงปัญหาการขาดออกซิเจนเหลวของทางโรงพยาบาล โดยชี้ว่า เชื่อว่าจะมีเพียงพอสำหรับคนไข้ไปได้แค่ช่วงเย็นวันพฤหัสบดี (10) เท่านั้น
แต่อย่างไรก็ตาม พบว่า ออกซิเจนของโรงพยาบาลแห่งนี้หมดลงในเวลา 11.30 น. ของวันนั้น และถังออกซิเจนถูกสั่งซื้อเข้ามาใหม่ในเวลา 1.30 น.ของเช้าวันศุกร์ (11)
เว็บไซด์ scroll.in รายงานว่า ผู้ดูแลออกมายอมรับว่า โรงพยาบาลวิทยาลัยการแพทย์บาบา รากาฟ ดาส เริ่มมีปัญหาออกซฺเจนเหลวไม่พอเพียงตั้งแต่เริ่มต้นของเดือนนี้แล้ว โดยทางบริษัทปุชปา เซลส์ได้ส่งหนังสือทวงหนี้ลงวันที่ 1 สิงหาคม แจ้งไปยังโรงพยาบาลถึงหนี้ค้างจ่าย ซึ่งในจดหมายแจ้งเตือน ทางบริษัทยังขู่ที่จะหยุดการจัดส่งอออกซิเจนเหลวให้หากทางโรงพยาบาลยังไม่ยอมชำระหนี้ที่ค้างไว้
ซึ่งสื่อท้องถิ่นอินเดียรายงานว่า แม้ว่าทางโรงพยาบาลจะได้รับจดหมายแจ้งเตือนจากทางบริษัท แต่ทว่ายังคงไม่เคลื่อนไหวชำระหนี้จนกลายเป็นโศกนาฏกรรมครั้งร้ายแรง
https://www.youtube.com/watch?v=WHTH1fqc2l8