เวอร์จิเนียประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หลังกลุ่มหนุนทรัมป์ขับรถพุ่งชนกลุ่มต้านตายคาม็อบ

ผู้ว่าการรัฐเวอร์จิเนียประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หลังการชุมนุมของกลุ่มชาตินิยมขวาจัดผิวขาวลุกลามกลายเป็นความรุนแรง หลังรถยนต์คันหนึ่งขับพุ่งเข้าใส่ฝูงชนอีกฝ่ายที่มาประท้วงตอบโต้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตหนึ่งคน นอกจากนี้ยังมีตำรวจเสียชีวิตอีก 2 นายจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกหลังพยายามเข้าไประงับเหตุชุลมุน ด้านทรัมป์ออกแถลงการณ์ประณามแบบเหวี่ยงแห โดยไม่ยอมแตะกลุ่มชาตินิยมขวาจัดที่ออกมาชุมนุมโดยระบุว่าได้แรงบันดาลใจมาจากทรัมป์

เทอร์รี แมคคอลิฟฟ์ ผู้ว่าการรัฐเวอร์จิเนียจากพรรคเดโมแครต ประณามกลุ่มนีโอนาซีเป็นต้นเหตุความรุนแรงในเมืองชาร์ลอตส์วิลล์เมื่อวันเสาร์ (12 สิงหาคม) ซึ่งมีการปะทะกันกลางเมืองระหว่างผู้ชุมนุมสองกลุ่มที่มีจำนวนนับร้อยคนพอๆ กัน และเป็นปฏิปักษ์กัน หลังจากกลุ่มขวาจัดรวมตัวต่อต้านแผนการย้ายรูปปั้นโรเบิร์ต อี.ลี. ผู้นำกองทัพคอนเฟเดอเรชัน ซึ่งเป็นวีรบุรุษของฝ่ายใต้ในสงครามกลางเมืองอเมริกา

หลังจากการปะทะกันนานหลายชั่วโมง มีรถยนต์คันหนึ่งขับมาด้วยความเร็วสูงและพุ่งเข้าใส่ฝูงชนที่ชุมนุมต่อต้านกลุ่มหัวรุนแรง ซึ่งอยู่ห่างจากสวนสาธารณะที่เป็นที่ตั้งรูปปั้นลีเพียง 2 ช่วงตึก ทำให้หญิงสาววัย 32 ปีคนหนึ่งเสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บขั้นวิกฤต 5 คน และบาดเจ็บรุนแรงอีก 4 คน

สำนักงานอัยการเทศมณฑลตะวันตกของเวอร์จิเนียและสำนักงานภาคสนามในริชมอนด์ของสำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) เปิดการสอบสวนในประเด็นสิทธิพลเมืองต่อกรณีการเสียชีวิตนี้ ขณะที่ตำรวจจับกุมเจมส์ อเล็กซ์ ฟิลด์ส จูเนียร์ หนุ่มวัย 20 ปีจากรัฐโอไฮโอ และตั้งข้อหาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ ซึ่งรวมถึงการฆ่าผู้อื่นโดยมีการไตร่ตรองล่วงหน้า

ตำรวจเวอร์จิเนียยังจับกุมชายหนุ่มวัย 21 ปี สองคนจากเวอร์จิเนียและเทนเนสซี โดยคนหนึ่งถูกตั้งข้อหาประพฤติตนไม่เหมาะสม และอีกคนข้อหาประทุษร้ายและทำร้ายร่างกาย และยังมีชายวัย 44 ปีจากฟลอริดาอีกคนที่ถูกตั้งข้อหาพกพาอาวุธแบบพกซ่อน

เจฟฟ์ เซสชันส์ รัฐมนตรียุติธรรมประณามเหตุการณ์รุนแรงในชาร์ลอตส์วิลล์ ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ตำรวจเวอร์จิเนีย 2 นายเสียชีวิตจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก หลังจากพยายามเข้าไปช่วยระงับเหตุ

แมคคอลิฟฟ์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และสั่งยุติการชุมนุมของกลุ่มชาตินิยมผิวขาวซึ่งประกอบด้วยกลุ่มไวท์ซูพรีเมซิสต์และนีโอนาซี และสถานการณ์กลับคืนสู่ภาวะปกติเมื่อใกล้เที่ยงคืน

ขณะเดียวกัน สภาเมืองชาร์ลอตส์วิลล์ลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์อนุญาตให้ผู้บัญชาการตำรวจประกาศเคอร์ฟิว แต่ถึงกระนั้น นายกเทศมนตรีไมค์ ซิกเนอร์ โพสต์บนเฟซบุ๊กว่า ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ช่วงก่อนเที่ยงคืนวันเสาร์

การปะทะครั้งนี้ตอกย้ำการฟื้นคืนชีพของกลุ่มไวท์ซูพรีเมซิสต์ กลุ่มชาตินิยมเหยียดผิวที่แอบอยู่หลังการเมืองอเมริกันกระแสหลักมานานหลายปี

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประณามเหตุการณ์ที่เวอร์จิเนียว่า สะท้อนถึงความเกลียดชัง ความดันทุรัง และความรุนแรงของหลายฝ่าย แต่ทรัมป์กลับไม่ยอมตอบผู้สื่อข่าวคนหนึ่งที่ตะโกนถามว่า เขาตำหนิกลุ่มชาตินิยมผิวขาวรุนแรงพอแล้วหรือ ด้านสมาชิกชั้นนำของเดโมแครต นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิพลเมือง รวมถึงสมาชิกบางคนของรีพับลิกันเอง ต่างไม่พอใจที่ทรัมป์ไม่ประณามกลุ่มไวท์ซูพรีเมซีสต์ การเผชิญหน้าครั้งนี้ยังเตือนถึงการแบ่งขั้วทางการเมืองที่ชัดเจนขึ้นนับจากที่ทรัมป์ลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว

จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์รุนแรงนี้มีขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ (11) เมื่อกลุ่มชาตินิยมผิวขาวหลายร้อยคนที่มีบางคนถือคบเพลิง เดินขบวนเข้าไปในมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย ซึ่งมีผู้วิจารณ์ว่า ชวนให้นึกถึงการเดินขบวนของกลุ่มเหยียดผิวสุดโต่ง คูคลักซ์แคลน

เหตุการณ์นี้เป็นการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างกลุ่มขวาสุดโต่งที่บางคนประกาศสวามิภักดิ์ต่อทรัมป์ กับกลุ่มที่ต่อต้านทรัมป์นับจากเข้ารับตำแหน่งเมื่อปลายเดือนมกราคม ซึ่งมีคนชุดดำจำนวนหนึ่งออกทุบทำลายหน้าต่างอาคารต่างๆ รถ และปะทะกับตำรวจในวอชิงตัน ทำให้มีผู้ถูกจับกุมกว่า 200 คน

เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีผู้ถูกจับกุมกว่า 20 คน หลังจากคูคลักซ์แคลน เดินขบวนต่อต้านแผนย้ายรูปปั้นลี นอกจากนั้นยังมีการชูคบเพลิงประท้วงการตัดสินใจนี้ในเดือนพฤษภาคมด้วย

ความคิดเห็น

comments