กระทรวงมหาดไทยของเนปาลเปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 52 คน และสูญหายอย่างน้อย 37 คน จากเหตุการณ์น้ำท่วมและดินถล่มอันเนื่องมาจากฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่วันศุกร์ (11 สิงหาคม) นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 20 คน และหลายพันครอบครัวต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัย ขณะที่ต้องส่งช้างช่วยอพยพนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ได้รับผลกระทบ

กระทรวงมหาดไทย ระบุว่า ระดับน้ำในแม่น้ำหลายสาย เอ่อล้นข้ามจุดอันตรายและได้เปลี่ยนเส้นทางการไหลของน้ำ ซึ่งเป็นอันตรายต่อบ้านเรือน โดยหน่วยงานความมั่นคงต่างๆ ซึ่งรวมถึงสำนักงานตำรวจเนปาล กองทัพเนปาล และกองกำลังติดอาวุธ ได้กระจายกำลังพลปฏิบัติการกู้ภัยและบรรเทาทุกข์

รัฐมนตรีมหาดไทยของเนปาล ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ประสบภัย และได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือ

ขณะเดียวกัน สะพานทางหลวงหลายแห่งได้รับความเสียหาย ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการสัญจรของยานพาหนะที่ลำเลียงสิ่งของ และปฏิบัติการบรรเทาทุกข์ไปยังพื้นที่ต่างๆ

ด้านแม่น้ำราปติในเมืองโซราฮาห่างไปทางใต้ราว 80 กิโลเมตรของกรุงกาฐมาณฑุอยู่ในสภาพเอ่อล้นตลิ่ง ไหลท่วมโรงแรม ร้านอาหาร และนักท่องเที่ยวตกค้าง 600 คน อยู่ในอุทยานแห่งชาติจิตวันในเมืองโซราฮาซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของแรดนอเดียวหรือแรดอินเดีย 605 ตัว และเป็นสถานที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งชาวอินเดียและชาวจีน ซึ่งส่วนใหญ่มาขี่ช้างและชมแรดหายาก

ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมกล่าวว่า ลูกค้าราว 300 คนได้ขี่ช้างไปยังเมืองใกล้เคียง ส่วนที่เหลือจะได้รับการนำส่งไปยังที่ปลอดภัยในวันนี้ เจ้าหน้าที่กองทุนสัตว์ป่าโลก

องค์กร WWF ในเนปาลกล่าวว่า พบแรดตาย 1 ตัวจากน้ำท่วม นอกจากนี้บ้านเรือนกว่า 60,000 หลังจมอยู่ใต้น้ำ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบทางใต้ซึ่งมีพรมแดนติดกับอินเดีย

ขณะที่เฮลิคอปเตอร์ ไม่สามารถขึ้นดำเนินปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือได้ เนื่องจากสภาพอากาศไม่ดี

ด้านหน่วยงานพยากรณ์อากาศและอุตุนิยมวิทยารายงานว่า ทั่วประเทศจะยังคงเผชิญมรสุมต่อไปอีก 2-3 วัน

ความคิดเห็น

comments

By admin