Headlines

คุกบุญทรง หมายจับยิ่งลักษณ์หนีศาล บทสรุปจำนำข้าว

ศาลฎีกาฯ สั่งจำคุก บุญทรง 42 ปี ภูมิ สาระผล โดน 36 ปี เสี่ยเปี๋ยง 48 ปี พร้อมให้ชดใช้เงินคืนรัฐ 16,912 ล้านบาท ฐานทุจริตระบายข้าวแบบจีทูจีให้แก่จีน อดีตนายกยิ่งลักษณ์ ไม่มาศาลอ้างป่วยน้ำในหูไม่เท่ากันแต่ไม่มีใบรับรองแพทย์ ศาลไม่เชื่อสั่งออกหมายจับ พร้อมริบเงินประกัน 30 ล้าน

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถ.แจ้งวัฒนะ นายธนฤกษ์ นิติเศรณี รองประธานศาลฎีกา ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน คดีทุจริตโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี และองค์คณะรวม 9 คน นัดฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อม.25/2558 ที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว จำเลยที่ 1, นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว จำเลยที่ 2 และพวกซึ่งเป็นอดีตนักการเมือง 3 คน ข้าราชการการเมือง 3 คน และนิติบุคคลกับกรรมการผู้มีอำนาจในนิติบุคคล รวม 28 ราย เป็นจำเลยที่ 1-28 ในความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ (ฮั้วประมูล) พ.ศ. 2542 มาตรา 4, 9, 10, 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจโดยทุจริตสร้างความเสียหายแก่รัฐ, ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต สร้างความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด มาตรา 157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 4, 123 และ 123/1 พร้อมทั้งขอให้ศาลสั่งปรับจำเลยทั้งหมด เป็นเงิน 35,274,611,007 บาทที่คิดคำนวณจากมูลค่าครึ่งหนึ่งตามสัญญาระบายข้าว 50,000 ตัน ที่พบว่ามีการกระทำผิดสัญญา 4 ใน 8 ฉบับ

วันนี้(ศุกร์ 25 สิงหาคม)จำเลย และกรรมการผู้มีอำนาจเดินทางมาศาล ขาดเพียง น.ส.ธันยพร จันทร์สกุลพร จำเลยที่ 21 ไม่มาศาล อ้างว่าป่วยอยู่ รพ.ค่ายสุรสีห์ จ.นครราชสีมา ขณะที่จำเลยที่ 3 และ 16 หลบหนี โดยศาลใช้เวลาอ่านนานร่วม 5 ชั่วโมง

ศาลพิพากษาว่า นายภูมิ จำเลยที่ 1 นายบุญทรง จำเลยที่ 2 นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ จำเลยที่ 4 นายฑิฆัมพร นาทวรทัต อดีตรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ จำเลยที่ 5 และนายอัครพงศ์ ช่วยเกลี้ยง อดีต ผอ.สำนักการค้าข้าวต่างประเทศ จำเลยที่ 6 กระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ (ฮั้วประมูล) พ.ศ. 2542 มาตรา 4 วรรค 1, 10, 12 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจโดยทุจริตสร้างความเสียหายแก่รัฐ เป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษบทหนักสุด คือ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ (ฮั้วประมูล) พ.ศ. 2542 มาตรา 4วรรค 1, 10, 12

โดยเป็นความผิดหลายกระทง จำเลยที่ 1 (นายภูมิ) มีความผิด 2 กระทง จำคุกกระทงละ 18 ปี รวมจำคุก 36 ปี จำเลยที่ 2 (นายบุญทรง) มีความผิด 3 กระทง รวมจำคุก 42 ปี จำเลยที่ 4-6 มีความผิดคนละ 4 กระทง จำคุกกระทงละ 10 ปี โดยนายมนัส จำคุก 40 ปี นายทิฆัมพร จำคุก 32 ปี และนายอัครพงศ์ จำคุก 24 ปี นายอภิชาติ หรือเสี่ยเปี๋ยง จันทร์สกุลพร จำคุก 48 ปี และให้ร่วมกับบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และนายนิมล รักดี ชดใช้ค่าเสียหาย 16,912,128,273 บาท พร้อมดอกเบี้ย

ส่วนจำเลยอื่นศาลพิพากษาลงโทษลดหลั่นตามพฤติการณ์ความร้ายแรงแห่งการกระทำความผิด

ทั้งนี้ ได้ยกฟ้องจำเลยที่ 19 และ 22-25 และให้ออกหมายจับจำเลยที่ 21 มาฟังคำพิพากษา เนื่องจากไม่เชื่อว่าป่วยจนถึงขนาดมาศาลไม่ได้

หลังจากศาลฯ อ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้นเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.ที่ผ่านมา นายบุญทรง และนายภูมิ พร้อมจำเลยคนอื่นๆ ได้ถูกควบคุมตัวไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ขณะที่ญาติๆ และทนายความได้เตรียมเอกสารและหลักทรัพย์เพื่อยื่นขอประกันตัว และดำเนินการอุทธรณ์ภายในกำหนด 30 วัน แต่ศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวนายบุญทรง

ด้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่เดินทางมาศาล โดยให้ทนายแจ้งว่ามีอาการป่วยน้ำในหูไม่เท่ากัน มีอาการวิงเวียนศีรษะอย่างรุนแรง ไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ จึงขอเลื่อนการฟังคำพิพากษา แต่โจทก์คัดค้านไม่เชื่อว่าจำเลยป่วยจริงเนื่องจากไม่มีใบรับรองแพทย์ และอาการป่วยที่อ้างไม่ถึงขนาดที่จะเดินทางมาศาลไม่ได้ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ไม่เชื่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ป่วยถึงขนาดมาศาลไม่ได้ พฤติการณ์มีเหตุอันควรให้เชื่อได้ว่าจำเลยหลบหนี จึงให้ออกหมายจับจำเลย และปรับนายประกันเต็มสัญญา (30 ล้านบาท) และให้เลื่อนไปฟังคำพิพากษาอีกในวันที่ 27 กันยายน เวลา 09.00 น.

ความคิดเห็น

comments