ชาวกาซาหลายร้อยคนได้ไปรวมตัวกันที่โรงหนังที่เปิดให้บริการเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีเมื่อคืนวันเสาร์ที่(26 สิงหาคม)ผ่านมา และเป็นการเปิดบริการเพียงคืนเดียวเท่านั้น
โรงภาพยนตร์ Samer ที่ถูกทิ้งร้างในเมืองกาซาซึ่งเป็นตึกที่เก่าแก่ที่สุดในแถบนี้ โดยปิดตายมาหลายสิบปีได้ทำหน้าที่ของมันอีกครั้งในการจัดฉายภาพยนตร์พิเศษเรื่องชาวปาเลสไตน์ในเรือนจำอิสราเอล
ชาวปาเลสไตน์ประมาณ 300 คนนั่งปะปนกันทั้งชายและหญิง แม้จะไม่มีเครื่องปรับอากาศที่ทำให้อากาศในช่วงเย็นของวันที่ร้อนและชื้น
กลุ่มฮามาสได้ปกครองกาซามานาน 10 ปี และปัจจุบันไม่มีโรงภาพยนตร์ที่เปิดให้บริการในดินแดนปาเลสไตน์ซึ่งมีประชาชน 2 ล้านคนอาศัยอยู่ในสภาพที่แออัดภายใต้การปิดล้อมของอิสราเอล
Ghada Salmi ผู้จัดงานกล่าวกับ AFP ว่าการจัดฉายภาพยนต์ในคืนนี้คือ “สัญลักษณ์” ของความพยายามที่กว้างขึ้น “เพื่อนำแนวคิดเรื่องโรงหนังมาสู่ฉนวนกาซา”
Jawdat Abu Ramadan หนึ่งในกลุ่มผู้เข้าชมกล่าวว่าเขาต้องการเห็นโรงภาพยนตร์ถาวรในฉนวนกาซา
“เราจำเป็นต้องมีชีวิตเหมือนมนุษย์โรงภาพยนตร์, พื้นที่สาธารณะ และสวนสาธารณะ” เขากล่าว
โรงภาพยนตร์ Samer สร้างขึ้นในปี 1944 แต่ปิดลงในปี 1960 โรงภาพยนต์ที่เหลืออยู่ปิดลงในปี 1980 ในช่วงของการอินฎิฟาเฎาะ
ในปี 1987 มีเหตุไฟไหม้ที่โรงภาพยนต์แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นการดำเนินการเพื่อโจมตีที่มีเป้าหมายที่โรงภาพยนต์
“ส่วนโรงภาพยนตร์ที่เหลืออยู่ก็ปิดตัวเองลงตั้งแต่นั้นมา” Salmi กล่าว
จากข้อมูลประวัติศาสตร์ที่อ้างอิงจากบันทึกเรื่อง “ประวัติศาสตร์กาซา” ของ Jean-Pierre Filiu’s ชาวฝรั่งเศส ระบุว่ากลุ่มอิควานในฉนวนกาซาภายใต้การดำเนินการโดยกลุ่มฮามาสได้จัดประชุมกันที่จะเปิดให้บริการของโรงภาพยนต์ Samer อีกคร้้งในช่วงปีใหม่อิสลามในปี 1946
“10 ปี” ภายใต้การบริหารดินแดนฉนวนกาซาของฮามาส โรงภาพยนต์เปิดให้บริการอีกครั้งในการฉากสารคดีเมื่อวันเสาร์ที่(26)ผ่านมาจากภาพยนต์ที่ถูกสร้างขึ้น โดยเหล่านักแสดงอาสาสมัครในฉนวนกาซา ในการบอกเล่าเรื่องราวของนักโทษปาเลสไตน์ในเรือนจำของอิสราเอล
Salmi กล่าวว่าเนื้อหาไม่ได้มุ่งไปในประเด็นความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล และปาเลสไตน์ แต่จะมุ่งไปที่การบอกเล่าเรื่องราวของชาวปาเลสไตน์แทน
การดำเนินการที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ได้รับการอนุมัติจากฮามาส
Nermin Ziara หนึ่งในผู้แสดงกล่าวว่าเขาต้องการที่จะเห็นโรงโรงภาพยนต์เปิดให้บริการอีกครั้ง เนื่องจาก “สังคมต้องพัฒนาผ่านภาพยนตร์และสารคดี”
Ziara กล่าวว่าเขาไม่คิดว่าฮามาสจะป้องกันการเคลื่อนไหวดังกล่าว
เขากล่าวกับ AFP ว่า “ผมไม่คิดว่าการเปิดโรงภาพยนต์จะมีปัญหากับฮามาสเนื่องจากโรงภาพยนต์เป็นสถานที่แห่งศิลปะ”
“เราเป็นชาวปาเลสไตน์ จำเป็นต้องมีพื้นที่ขนาดใหญ่สำหรับงานศิลปะ” เขากล่าว
ที่มา อาหรับนิวส์
