มาลาลา ยูซาฟไซ ผู้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพที่มีอายุน้อยที่สุดออกมาเรียกร้องให้นางอองซานซูจี ที่เคยได้รับรางวัลโนเบลสาขาเดียวกันนี้ กล่าวประณามการปฏิบัติที่น่าละอายต่อชาวโรฮิงญาในพม่า โดยกล่าวว่า “โลกกำลังเฝ้ารอ” ให้ซูจีพูดถึงเรื่องนี้ ขณะที่ยอดผู้อพยพพุ่ง เกือบ 90,000 คน
ชาวโรฮิงญาเกือบ 90,000 คน ได้หลบหนีไปบังกลาเทศตั้งแต่ความรุนแรงปะทุขึ้นในพม่าเมื่อ 25 สิงหาคม ที่เป็นความท้าทายทางการเมืองที่ใหญ่ที่สุดที่ซูจีกำลังเผชิญหน้า และถูกวิจารณ์ถึงการไม่พูดถึงการดำเนินการของทางการพม่าอย่างรุนแรงต่อชนกลุ่มน้อยกลุ่มนี้
“ในช่วงหลายปีมานี้ ฉันได้กล่าวประณามการปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างน่าสลดใจและน่าละอายมาตลอด ฉันยังคงเฝ้ารอให้อองซานซูจี ที่ได้รับรางวัลโนเบลสันติภาพทำเช่นเดียวกัน” มาลาลากล่าวในคำแถลงที่โพสลงบนทวิตเตอร์
“โลกกำลังเฝ้ารอ และชาวโรฮิงญาก็กำลังเฝ้ารอเช่นกัน” เธอกล่าว
สำนักข่าว Antara รายงานว่า นักเคลื่อนไหวจากอินโดนีเซียเรียกร้องให้คณะกรรมการรางวัลโนเบลถอนรางวัลสันติภาพของนางอองซานซูจีระหว่างชุมนุมประท้วงอยู่ด้านนอกสถานทูตพม่าในกรุงจาการ์ตา
ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพม่าเริ่มขึ้นจากเหตุโจมตีเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ที่ด่านตำรวจ และค่ายทหาร รวม 31 แห่ง ถูกโจมตีโดยสิ่งที่พม่าเรียกว่ากลุ่มก่อการร้ายโรฮิงญา โดยพม่าอ้างว่าเป็นการโจมตีพร้อมกัน แต่ละจุดมีการใช้กำลัง 100-150 คน โดยมี มีด ไม้ และปืนเป็นอาวุธ ทางการพม่าใช้ข้ออ้างดังกล่าวในการปราบปรามอย่างรุนแรงต่อชาวโรฮิงญา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 400 คน
เจ้าหน้าที่พม่ากล่าวโทษกลุ่มนักรบโรฮิงญาที่เผาบ้านเรือนผู้คนและทำให้พลเรือนเสียชีวิต แต่ผู้ตรวจสอบสิทธิมนุษยชนและชาวโรฮิงญาที่หลบหนีไปยังบังกลาเทศยืนยันว่า ทหารพม่าเป็นผู้บุกเข้ามาเผาบ้านเรือนของพวกเขา และสังหารผู้คนไปเป็นจำนวนมากโดยมีเป้าหมายจะขับไล่พวกเขา