สาวแคนาดาบุกป่วนส.ส.ชาวซิกข์ เข้าใจผิดคิดว่ามุสลิม

สมาชิกสภานิติบัญญัติของรัฐออนแทรีโอ (MPP) Jagmeet Singh ผู้นำพรรคพรรคประชาธิปัตย์ใหม่ (NDP) ถูกรบกวนโดยกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านชาวมุสลิมซึ่งเข้าใจผิดที่เขาแต่งกายโพกศีรษะคล้ายกับชาวมุสลิม จนเข้าใจผิดว่าเขาเป็นมุสลิมในระหว่างงานที่จัดขึ้นในเมือง Brampton ของแคนาดา

ภาพของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่าซิงห์เตรียมที่จะพูดคุยกับผู้สนับสนุนที่เป็นส่วนหนึ่งของงานประชาสัมพันธ์ที่มีชื่อว่า “Jagmeet and Greet” แต่ถูกขัดจังหวะโดยผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งระบุว่าตัวเองเป็นเจนนิเฟอร์ บุช

“เมื่อไหร่ที่ชะรีอะห์จะจบลง เรารู้ว่าคุณกำลังนอนอยู่กับกลุ่มภราดรภาพมุสลิม!” สาวบุชบอกซิงห์

นักการเมืองหนุ่มบอกกับผู้สนับสนุนว่าเขาไม่ต้องการถูกข่มขู่โดยความเกลียดชัง หรือทำลายกิจกรรมอันดีนี้ด้วยความเกลียดชัง

“เรายินดีต้อนรับคุณเรารักคุณ เราสนับสนุนคุณ” เขาบอกบุชซึ่งจบลงด้วยการออกจากห้อง

ซิงห์ออกแถลงการณ์ในบัญชี Twitter ของเขาหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบอกว่าอุดมการณ์ของเขามุ่งเน้นไปที่ความรักและความกล้าหาญ

หลายคนได้แสดงความคิดเห็นว่าทำไมผมไม่บอกเธอว่าผมไม่มุสลิม ในความเป็นจริงหลายคนพยายามบอกว่าที่จริงแล้วผมเป็นชาวซิกข์ ในขณะที่ผมภูมิใจในสิ่งที่ผมเป็น เหตุนี้แสดงให้เห็นว่าการเกลียดชังของพวกเขาจะรู้สึกดีกว่านี้ถ้าผมเป็นมุสลิม”นายซิงห์กล่าวเพิ่มว่าคำตอบของเขาต่อกระแส Islamophobia โดยย้ำว่าเขาไม่เคยเป็น” ฉันไม่ใช่มุสลิม ”

“เมื่อได้ปล่อยให้กระแสแห่งความเกลียดชังเติบโต และปล่อยให้มันแพร่กระจายไปเหมือนไฟ เมื่อเราตกลงที่จะเกลียดคนที่ศาสนาของพวกเขา ในขณะเดียวกันเราก็ยังได้เปิดประตูให้กับความเกลียดบนพื้นฐานของเชื้อชาติ และเพศมากขึ้นด้วย” เขากล่าว

เจนนิเฟอร์ บุชยังได้เผยแพร่วิดีโอบน YouTube ด้วยซึ่งบอกว่าเธอรู้ว่าซิงห์ไม่ใช่มุสลิม เธอเป็นผู้สนับสนุน Rise Canada ซึ่งต่อต้านการละหมาดของชาวมุสลิมในโรงเรียน Peel และได้เข้าร่วมการชุมนุมและร่วมกิจกรรมกับกลุ่มขวาจัดเช่น Pegida ด้วย

Jagmeet Singh กำลังทำกิจกรรมทางการเมืองในการเป็นผู้นำพรรค NDP และถูกมองว่าเป็นคู่แข่งสำคัญของนายกรัฐมนตรี Justin Trudeau

เช่นเดียวกับส่วนอื่นๆ ของโลก กระแส Islamophobia กลายเป็นปัญหาในแคนาดา มีการปะทะกันในการโจมตีชาวมุสลิมในประเทศและมัสยิดถูกกำหนดเป็นเป้าหมาย ในเดือนมกราคมมือปืนฆ่าชาวมุสลิมที่มาร่วมละหมาดในมัสยิดของเมืองควิเบกจนมีผู้เสียชีวิตถึง 6 คน

ที่มา DAILY SABAH

ความคิดเห็น

comments