แอมเนสตีสากลเปิดเผยภาพถ่ายดาวเทียมพบหมู่บ้านชาวโรฮิงญาถูกเผาราบ ด้านทางการพม่ายอมรับ 30% ของหมู่บ้านชาวโรฮิงญาในเวลานี้ว่างเปล่า เลขา UN ประณามการทำลายหมู่บ้านโรฮิงญาเป็นสิ่งที่รับไม่ได้

บีบีซี รายงานว่า การบุกเผาหมู่บ้านชนกลุ่มน้อยชาวโรฮิงญาทางตะวันตกของพม่า สามารถมองได้เห็นจากอากาศ เมื่อล่าสุดองค์การแอมเนสตีสากลได้ออกมาเปิดเผยในวันพฤหัสบดี(14 กันยายน) ถึงภาพถ่ายผ่านดาวเทียม ที่ได้แสดงให้เห็นถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งในแถลงการณ์ หน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า ถือเป็นหลักฐานสำคัญที่บ่งชี้ว่า กองกำลังเจ้าหน้าที่ความมั่นคงพม่าต้องการผลักดันชาวโรฮิงญาให้ออกนอกประเทศ

โดยในแถลงการณ์ของรัฐบาลพม่าออกมายอมรับว่า ในปัจจุบันนี้ หมู่บ้านโรฮิงญาจำนวนอย่างน้อย 30 % ในรัฐยะไข่ ขณะนี้ว่างเปล่า

ซึ่งเลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ อันโตนิโอ กูเตร์เรส ได้ออกมายืนยันว่า ในขณะนี้มุสลิมโรฮิงญาประสบปัญหาวิกฤตทางบรรเทาทุกข์ขั้นร้ายแรง พร้อมออกมาประณามถึงการทำลายหมู่บ้านโรฮิงญาว่า “เป็นสิ่งที่รับไม่ได้โดยสิ้นเชิง”

โดย ตีรานนา ฮัสซาน(Tirana Hassan) ผู้อำนวยการกลุ่มตอบโต้วิกฤต (crisis response director) ของกลุ่มแอมเนสตีสากล ได้ชี้ว่า “หลักฐานที่เกิดขึ้นนั้นปฎิเสธไม่ได้เลยว่า กองกำลังความมั่นคงพม่าได้ทำการจุดไฟเผาหมู่บ้านเป้าหมาย เพื่อผลักดันประชาชนโรฮิงญา ให้เดินทางออกนอกพม่าไป ซึ่งอย่างไม่ต้องสัย นี่เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อย่างแน่นอน”

โดยในรายงานบนเว็บไซต์แอมเนสตี สากล หนึ่งในพยานโรฮิงญาที่รอดชีวิต เปิดเผยว่า ทหารพม่าร่วม 50 คนเข้ามายังหมู่บ้านจากทาง 2 ด้าน เข้าประชิดโรฮิงญาที่อยู่บริเวณฝั่งแม่น้ำ เริ่มต้นกราดยิงแบบไม่เลือกหน้า ท่ามกลางการหนีตายอย่างสุดชีวิตของชาวโรฮิงญา ซึ่งพบว่ามีทางเลือกน้อยมากในการหลบหนี หากไม่สามารถว่ายข้ามแม่น้ำออกไปได้

พยานที่รอดชีวิตชี้ว่า ทหารพม่ามีเป้าหมายไปที่กลุ่มผู้ชายของชาวโรฮิงญา ด้วยการจ่อยิงในระยะเผาขน และตบหน้าคนที่ไม่สามารถหนีออกไปได้ทัน ซึ่งเป็นการบุกเข้าทำลายอย่างมีระบบและพร้อมกัน

ซึ่งทางแอมเนสตีสากลชี้ว่า บรรดาเจ้าหน้าที่พม่าจะเข้าล้อมหมู่บ้าน ยิงชาวโรฮิงญาที่ยังหลงเหลือ และทำการเผาหมู่บ้านพวงวกเขาเสีย ทางแอมเนสตีสากลประกาศว่า “นี่เป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ”

และทางกลุ่มเพื่อสิทธิมนุษยชนสากลยังชี้ว่า นี่เป็นครั้งแรกที่สามารถเห็นควันไฟได้ชัดจากอวกาศ เพราะไม่สามารถเห็นควันไฟได้อย่างชัดเจนจากระดับสูงในเหตุการณ์ที่คล้ายกันเมื่อ 4 ปีก่อนหน้า ซึ่งแอมเนสตีได้เปิดเผยว่า มีกว่า 80 แห่งในรัฐยะไข่ถูกวางเพลิงเผาอย่างจงใจตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม เป็นต้นมา

ความคิดเห็น

comments

By admin