นายกรัฐมนตรีชีค ฮาซินา ของบังกลาเทศ ได้พูดคุยกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันจันทร์ที่ (18 กันยายน) ผ่านมา เกี่ยวกับชาวโรฮิงญานับแสนๆ คนที่หลบหนีการกวาดล้างทางเชื้อชาติจากพม่า แต่ไม่คาดหวังว่าจะได้รับการช่วยเหลือจากผู้นำสหรัฐฯ หลังเขาไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ ต่อเรื่องนี้เลย ระบุประเทศไม่ร่ำรวยแต่พร้อมจะดูแลประชากร 160 ล้าน และถ้ามีเพิ่มขึ้นอีก 700,000 เราก็ต้องอยู่ได้
ชีคฮาซินา ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษต่อสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ตนเข้าไปขอพูดคุยกับ ทรัมป์ ประมาณ 2-3 นาทีที่สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก “เขาแค่ถามดิฉันว่าบังกลาเทศเป็นอย่างไรบ้าง ดิฉันก็ตอบว่าเราสบายดี มีปัญหาอยู่เรื่องเดียวคือผู้ลี้ภัยจากพม่า… แต่เขาไม่ยอมแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้เลย”
ปฏิบัติการกวาดล้างของกองทัพพม่าในรัฐยะไข่ที่เริ่มขึ้นเมื่อเดือนที่แล้วทำให้ชาวมุสลิมโรฮิงญามากกว่า 410,000 คนต้องหนีตายไปยังบังกลาเทศ ขณะที่องค์การสหประชาชาติ (UN) ประณามเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นว่าเป็นการกวาดล้างทางเชื้อชาติ
ชีคฮาซินา ซึ่งมีกำหนดจะขึ้นปาฐกถาต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติในวันพฤหัสบดี (21) ระบุว่า ทรัมป์ มีจุดยืน “ชัดเจน” ในเรื่องผู้ลี้ภัย และการขอร้องให้เขาช่วยมุสลิมโรฮิงญานั้น “ไม่มีประโยชน์”
“อเมริกาประกาศว่าไม่รับผู้ลี้ภัยหน้าไหนทั้งนั้น แล้วดิฉันจะคาดหวังอะไรจากพวกเขาได้ล่ะ ยิ่งตัวประธานาธิบดีเองด้วยแล้ว เขาแสดงออกชัดเจนว่าคิดอย่างไร แล้วดิฉันจะขอร้องไปทำไม” นายกฯ หญิงบังกลาเทศ กล่าว
“บังกลาเทศไม่ใช่ประเทศที่ร่ำรวย แต่ถ้าเราสามารถเลี้ยงดูพลเมือง 160 ล้านคนได้ จะมีเพิ่มมาอีก 500 หรือ 700,000 คนเราก็ต้องทำได้”
เจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งของทำเนียบขาวปฏิเสธไม่รับรู้เรื่องบทสนทนาระหว่าง ทรัมป์ กับ ชีคฮาซินา แต่ยืนยันว่าผู้นำสหรัฐฯ ให้ความใส่ใจกับปัญหาโรฮิงญา “และท่านจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแน่นอน ถ้ามีการหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมา”
หลังสาบานตนรับตำแหน่งเมื่อเดือน มกราคมได้ไม่นาน ทรัมป์ ก็ออกคำสั่งแช่แข็งโครงการรับผู้ลี้ภัยเป็นเวลา 120 วัน โดยผู้ลี้ภัยซีเรียนั้นถูกห้ามเข้าสหรัฐฯ อย่างไม่มีกำหนด นอกจากนี้ยังสั่งห้ามชาวมุสลิมจาก 6 ประเทศเดินทางเข้าสหรัฐฯ เป็นเวลา 90 วันด้วย
ทรัมป์ ได้ทวีตข้อความเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (15) ว่า “คำสั่งห้ามเดินทางเข้าสหรัฐฯ ควรจะถูกขยายให้กว้าง เข้มงวด และเฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้นไปอีก แต่มันก็จะไปขัดกับความถูกต้องในแง่การเมือง (political correctness) เข้าน่ะสิ! ”
ทรัมป์ อ้างว่านโยบายของเขามีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการก่อการร้าย และเพื่อให้รัฐบาลมีเวลาคิดหามาตรการคัดกรองที่เข้มงวดขึ้น โดยศาลสูงสุดสหรัฐฯ จะเปิดการไต่สวนนัดสำคัญในเดือน ตุลาคมนี้เพื่อตัดสินว่าคำสั่งแบนของ ทรัมป์ ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่
ชีคฮาซินา เรียกร้องให้นานาชาติเพิ่มแรงกดดันต่อทางการพม่ามากกว่านี้ เพื่อให้ชาวโรฮิงญาสามารถกลับไปยังถิ่นฐานเดิมของพวกเขาในรัฐยะไข่ได้
“(อองซานซูจี) ต้องยอมรับว่าคนเหล่านี้เป็นประชากรของพม่า และพม่าคือบ้านเกิดเมืองนอนของพวกเขา รัฐบาลพม่าควรรับตัวคนเหล่านี้กลับไป… พวกเขากำลังทนทุกข์ทรมาน”