นายกรัฐมนตรี เชค ฮาซินา ของบังกลาเทศออกข้อเรียกร้องใหม่ให้พม่ารับชาวโรฮิงญาราว 420,000 คนกลับ หลังจากที่พวกเขาหนีตายจากความรุนแรงในประเทศนี้ที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธ

ในระหว่างการพูดคุยกับนักเคลื่อนไหวชาวบังกลาเทศในนิวยอร์กซึ่งเธอกำลังเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ฮาซินายังเรียกร้องให้นานาชาติกดดันพม่าากขึ้นเกี่ยวกับวิกฤตใหม่ครั้งนี้ที่ปรากฏออกมาเมื่อสามสัปดาห์ที่แล้ว

“เราบอกกับพม่าว่า พวกเขาคือพลเมืองของคุณ คุณต้องรับพวกเขากลับ ให้ความปลอดภัยกับพวกเขา ให้ที่พักพิงพวกเขา ไม่ควรมีการกดขี่และการทรมาน” เธอบอกในการพบปะเมื่อคืนวันพุธ (20) ในนิวยอร์ก

นายกรัฐมนตรีฮาซินากล่าวว่า บังกลาเทศกำลังใช้ความพยายามทางการทูตเพื่อพม่ารับผู้ลี้ภัยเหล่านี้กลับประเทศของตน

“รัฐบาลพม่าไม่ได้ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องดังกล่าว แต่พม่ากลับวางกับระเบิดตามแนวชายแดนเพื่อป้องกันไม่ให้ชาวโรฮิงญากลับสู้บ้านเกิดของตน” เธอกล่าว

ผู้นำโดยพฤตินัยของพม่า นางออง ซานซูจี กล่าวในช่วงการปราศรัยก่อนหน้านี้ว่า พม่าจะรับผู้ลี้ภัยที่ได้รับการับรองแล้วกลับประเทศ

อย่างไรก็ตามพม่าปฏิเสธความเป็นพลเมืองของชาวโรฮิงญา พวกเขาไม่มีบัตร ไม่มีใบเกิด มีเพียงอย่างเดียวคือที่อยู่ของพวกเขาในยะไข่ที่จะแสดงความเป็นเจ้าของ และเป็นเครื่องบกบอกว่าชาวโรฮิงญาอยู่ในพื้นที่แห่งนี้มานับร้อยปี แต่เวลานี้พวกเขาต้องละทิ้งจากพื้นที่ของตนเพื่อเอาชีวิตรอดจากการไล่ฆ่า ทำให้เวลานี้พวกเขาไม่มีสิ่งใดที่จะแสดงตนว่า ซึ่งเท่ากับเป็นการตัดสิทธิโดยชอบของพวกเขาที่จะกลับเข้าพม่าอีกครั้ง

นอกจากนี้ในการประชุมชาติอิสลามนอกรอบการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ เชค ฮาซินา กล่าวว่า พม่ากำลังดำเนินแผนโฆษณาชวนเชื่อในการเรียกชาวโรฮิงญาว่าเป็นชาวบังกลาเทศ พร้อมเสริมว่า พวกเขาต้องได้รับสถานะพลเมืองพม่า

รัฐบาลบังกลาเทศต้องการ “ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเร่งด่วน” จากชาติมุสลิมเพื่อรับมือกับการไหลทะลักของชาวโรฮิงญาที่อพยพหนี “การฆ่าล้างเผ่าพันธ์” ตามรายงานของสำนักข่าว BSS ของบังกลาเทศ

“มันเป็นความหายนะของมนุษย์ที่เกินรับไหว ดิฉันได้ไปเยี่ยมเยียนพวกเขาและรับฟังเรื่องราวความทุกข์แสนสาหัสของพวกเขา โดยเฉพาะของผู้หญิงและเด็ก” เธอกล่าว

“ดิฉันอยากให้พวกคุณทั้งหมดมาที่บังกลาเทศ และฟังเรื่องความโหดป่าเถื่อนในพม่าจากพวกเขา” เธอกล่าว ผู้ลี้ภัยส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก

ถึงแม้ว่าบังกลาเทศจะได้รับคำชื่นชมจากนานาชาติสำหรับการเปิดชายแดนรับโรฮิงญา แต่หลายหน่วยงานบรรเทาทุกข์เตือนถึงเรื่องวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ทางการประสบความยากลำบากในการจัดสรรสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานแก่ผู้ลี้ภัยกลุ่มใหม่นี้

ผู้ลี้ภัย 421,000 คนในที่พักพิงชั่วคราวรอบเมืองชายแดนคอกซ์บาซาร์ในตอนนี้เข้ามาภายหลังชาวโรฮิงญา 300,00 ที่ย้ายเข้ามาในค่ายต่างๆ ในภูมิภาคนี้อยู่ก่อนแล้วหลังจากเหตุความรุนแรงก่อนหน้านี้ในพม่า

https://www.youtube.com/watch?v=bG5-Uz1tQT8

ความคิดเห็น

comments

By admin

ข่าวที่น่าสนใจ