ชาวพม่าหลายร้อยคนพยายามที่จะขัดขวางการจัดส่งความช่วยเหลือให้กับชาวมุสลิมในรัฐยะไข่ ที่สหประชาชาติได้ระบุว่าปฎิบัติการทางทหารของพม่าเป็นการดำเนินการที่เรียกว่าการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ โดยมีพยานรายหนึ่งระบุว่าผู้ชุมนุมประท้วงได้ขว้างระเบิดขวด ก่อนตำรวจจะเข้าสลาย

การประท้วงที่เกิดขึ้นเป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นถึงความขัดแย้งระหว่างชุมชนที่คุกคามการจัดส่งความช่วยเหลือจำเป็นเร่งด่วนเข้าพื้นที่ยะไข่

การจัดส่งความช่วยเหลืออยู่ภายใต้การดูแลของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) ที่มุ่งไปยังพื้นที่ตอนเหนือของรัฐยะไข่ ซึ่งเป็นพื้นที่ปฎิบัติการทางทหารหลังของพม่าตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม ส่งผลให้ชาวโรฮิงญามากกว่า 420,000 คน หลบหนีไปบังกลาเทศ แต่ยังมีชาวโรฮิงญาอีกจำนวนมากยังคงอยู่ในพื้นที่ยะไข่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ระบุว่าคนเหล่านี้หลบซ่อนตัวอยู่ด้วยความหวาดกลัวว่าจะถูกจับตัวโดยกลุ่มศาลเตี้ย ท่ามกลางความรุนแรงที่ขยายตัวโดยไร้อาหาร และเสบียงจำเป็นต่างๆ

ทางการพม่าระบุว่ามีชาวพม่าหลายร้อยคนพยายามที่จะสกัดขัดขวางเรือซึ่งบรรทุกความช่วยเหลือราว 50 ตัน ที่ท่าเรือในเมืองสิตตะเว รัฐยะไข่ เมื่อค่ำวันพุธ

ผู้ชุมนุมประท้วงบางรายพกพาอาวุธทั้งไม้และแท่งเหล็ก และขว้างระเบิดขวด ก่อนที่ตำรวจราว 200 นาย จะเข้าสลายกลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวด้วยการยิงปืนขึ้นฟ้า ตามการบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่ง และตามการรายงานของสำนักงานข้อมูลข่าวสารของรัฐบาลระบุว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ถูกจับกุมตัว 8 คน

โฆษกของ ICRC ยังไม่ได้แสดงความเห็นถึงเหตุการณ์นี้รวมทั้งตำรวจในเมืองสิตตะเว

ความตึงเครียดระหว่างชาวพุทธ และชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่คุกรุ่นมานานหลายปี แต่เกิดปะทุขึ้นเป็นความรุนแรงในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาหลังรัฐบาลเต็ง เส็ง ปล่อยตัวพระวิระธุที่ถูกจองจำในข้อหาปลุกปั่นสร้างความขัดแย้งทางศาสนาออกจากเรือนจำ

โดยความรุนแรงล่าสุดเกิดขึ้นในวันที่ 25 สิงหาคม หลังพม่าใช้เหตุการโจมตีของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ARSA กว่า 30 จุดในยะไข่ ส่งผลให้ทหารที่ถูกส่งกำลังเข้าไปรออยู่ในพื้นที่แล้วราวหนึ่งสัปดาห์ก่อนเกิดเหตุ ได้เปิดปฎิบัติการปราบปรามอย่างรุนแรงในพื้นที่ทันที

ด้านพลเอกอาวุโสมิน ออง หล่าย ได้เดินทางไปเยี่ยมค่ายทหารในรัฐยะไข่ที่ถูกโจมตีเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม โดยระบุว่า “นี่เป็นอาณานิคมของอังกฤษเมื่อกว่า 100 ปีก่อน เรากำลังเผชิญกับผลที่ตามมาจากการกระทำอันสะเพร่าของพวกเขาจนถึงตอนนี้”

ทั้งนี้คำกล่าวของผู้นำสูงสุดทางทหารของพม่าเป็นหลักฐานที่สำคัญที่ยอมรับว่าชาวโรฮิงญาที่ถูกทางการพม่าใช้ปฎิบัติการทางทหารขับไล่ออกนอกพื้นที่ในขณะนี้เป็นกลุ่มที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมาแล้วไม่น้อยกว่า 100 ปี

อังกฤษเจ้าอาณานิคมได้ประกาศระงับโครงการการฝึกอบรมสำหรับเจ้าหน้าที่พม่าอันเนื่องจากเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นและเรียกร้องให้กองทัพยุติความรุนแรง

ขณะที่กองทัพพม่าตอบโต้การประกาศของอังกฤษโดยระบุว่าเจ้าหน้าที่ 5 นายในอังกฤษกำลังเดินทางกลับประเทศ และจะไม่มีผู้เข้ารับการฝึกอบรมใดๆ ถูกส่งไปอังกฤษอีก

ความคิดเห็น

comments

By admin