เชื่อมั๋ย!?! พม่าบอกโรฮิงญาระเบิดมัสยิดบีบให้อพยพไปบังกลาเทศ

ผู้บัญชาการทหารสูงสุดพม่ากล่าวอ้างว่ากลุ่มนักรบโรฮิงญาวางระเบิดหน้ามัสยิดในรัฐยะไข่ สวนทางทางกลุ่มสิทธิที่ยืนยันหลักฐานชัดกองทัพพม่าลงมือเผาหมู่บ้านโรฮิงญา สกัดไม่ให้ผู้อพยพกลับเข้าพื้นที่

พล.อ.อาวุโสมิน อ่องหล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมาโพสต์เฟซบุ๊กวันเสาร์ที่(23 กันยายน)ว่า กลุ่มกองทัพปลดแอกโรฮิงญาแห่งรัฐอาระกัน(ARSA) วางระเบิดทำเองที่เกิดระเบิดระหว่างมัสยิดกับโรงเรียนสอนศาสนาในเมืองบุธิดอง ทางตอนเหนือของรัฐยะไข่เมื่อวันศุกร์ที่(22)ผ่านมา เนื่องจากชาวบ้านไม่ยอมอพยพออกจากบ้านเรือน กลุ่มนักรบโรฮิงญาจึงวางระเบิดในช่วงละหมาดเพื่อทำให้ชาวบ้านหวาดกลัว

ผู้บัญชาการทหารสูงสุดพม่ากล่าวหากลุ่มนักรบโรฮิงญาก่อเหตุโจมตีเพื่อต้องการขับไล่ชาวบ้านในพื้นที่ Mi Chaung Zay ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ราว 700,000 คนให้ออกจากพื้นที่ แต่นักวิเคราะห์บอกว่าไม่มีเหตุผลที่กลุ่มนักรบโรฮิงญาจะทำเช่นนั้น

“ในขณะที่ชาวบ้านของเราไม่ต้องการอพยพออกจากที่อยู่อาศัยของพวกเขา ผู้ก่อการร้ายได้ก่อเหตุระเบิดในช่วงเวลาละหมาดเพื่อข่มขวัญชาวบ้าน” ข้อความในเพจของ พล.อ.อาวุโสมิน อ่องหล่าย ระบุ

“มันเป็นการกระทำของ ARSA” ข้อความในเพจระบุ พร้อมระบุอีกว่า ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากเหตุที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ดีเนื่องจากทางการพม่าขัดขวางไม่ให้คณะตรวจสอบนานาชาติเข้าพื้นที่ จึงยากต่อการพิสูจน์ข้อกล่าวอ้างต่อเหตุที่เกิดขึ้นของทหารพม่า

สวนทางกับข้อมูลขององค์การนิรโทษกรรมสากลที่แถลงเมื่อวันศุกร์ว่า วิดีโอ และภาพถ่ายดาวเทียมใหม่ ๆ ยืนยันว่า ยังคงมีไฟไหม้ทั่วหมู่บ้านโรฮิงญา

ชุมชนหลายแห่งไฟเผาเหลือแต่ซาก

ทางการเมียนมาไม่เพียงบีบให้ชาวโรฮิงญาต้องอพยพ แต่ยังจงใจทำให้พวกเขาไม่มีบ้านเรือนให้กลับมาอีกด้วย

ส่วนกลุ่มฮิวแมนไรทส์วอทช์แถลงในวันเสาร์ว่า กองทัพพม่าวางทุ่นระเบิดตามชายแดนด้านติดกับบังกลาเทศ ลำพังการหนีความโหดร้ายในพม่าก็อันตรายถึงแก่ชีวิตมากพออยู่แล้ว

ขอเรียกร้องให้กองทัพเมียนมายุติการใช้อาวุธต้องห้ามแบบนี้ที่ทำให้คนล้มตาย และพิการอย่างไม่เลือกหน้า

ความคิดเห็น

comments