บังกลาเทศต้องการความช่วยเหลือระหว่างประเทศอย่างมหาศาลเพื่อเลี้ยงดูและให้ที่พักพิงแก่ชาวโรฮิงญากว่า 436,000 คน ที่หลบหนีความรุนแรงในพม่าในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ตามการเปิดเผยของหัวหน้าหน่วยงานผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ
ฟิลิปโป กรันดี ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติกล่าวว่า มีความท้าทายอย่างใหญ่หลวงหลังเดินทางเยือนค่ายที่เต็มไปด้วยผู้คน ซึ่งตั้งอยู่รอบเมืองคอกซ์บาซาร์ ของบังกลาเทศ
กรันดีกล่าวว่าผู้อพยพต้องการทุกอย่าง ต้องการอาหาร น้ำสะอาด และการดูแลสุขภาพที่ถูกต้องเหมาะสม แม้คนท้องถิ่นจะมีน้ำใจให้ความช่วยเหลืออย่างน่าเหลือเชื่อ แต่จำเป็นที่จะต้องได้รับความช่วยเหลือจากต่างชาติอย่างมหาศาล
องค์การยูนิเซฟ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ว่ามีเครื่องบินบรรทุกความช่วยเหลือ 100 ตันของความช่วยเหลือจากยุโรปรวมถึงเม็ดยาชำระล้าง สุขภัณฑ์ และผ้าใบกันน้ำ
สหประชาชาติระบุว่ามีชาวโรฮิงญามากถึง 436,000 คน เดินทางมาจากรัฐยะไข่ของพม่า นับตั้งแต่ความรุนแรงปะทุขึ้นเมื่อ 1 เดือนก่อน
กรันดีกล่าวว่า การไหลบ่าของผู้อพยพเริ่มชะลอตัวลงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาแต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะมีผู้อพยพเดินทางมาเพิ่มอีกหรือไม่ และยังระบุว่าสำนักงานของเขากำลังจัดหาความช่วยเหลือทางเทคนิคที่จะช่วยบังกลาเทศลงทะเบียนชาวโรฮิงญา ชนกลุ่มน้อยจากพม่า
บังกลาเทศยอมรับเพียงแค่ส่วนเล็กน้อยของชาวโรฮิงญาราว 700,000 คนที่อาศัยอยู่ในค่ายใกล้ชายแดนพม่าว่าเป็นผู้ลี้ภัย ขณะที่ชาวโรฮิงญาที่เหลือถือเป็นชาวพม่าที่ไม่มีเอกสารรับรอง
Amir Hossain Amu รัฐมนตรีอาวุโสของบังกลาเทศระบุว่ายังไม่มีแผนที่จะให้สถานะผู้ลี้ภัยกับชาวโรฮิงญาที่เดินทางมาใหม่ และต้องการให้โรฮิงญาเหล่านี้กลับประเทศตัวเอง
บังกลาเทศได้เริ่มจัดหาบัตรประจำตัวและบันทึกข้อมูลทางชีวภาพให้กับผู้อพยพมาใหม่ กระบวนการที่เริ่มขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา และคาดว่าจะใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าจะเสร็จสมบูรณ์
ขณะที่หลายคนยังคงหวังว่าจะได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับพม่า ซึ่งนางอองซานซูจี ได้กล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าผู้ที่ได้รับการยืนยันว่าเป็นผู้ลี้ภัยจากพม่าจะได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับประเทศ