อ้างถล่มดาอิช สหรัฐฯ ทิ้งบอมใส่พลเรือนตายอีก 84

องค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชนฮิวแมนไรต์วอตช์ (HRW) เผยปฏิบัติการทิ้งระเบิดของฝ่ายสหรัฐฯ ด้วยข้ออ้างปราบปรามดาอิช ในจังหวัดร็อกเกาะห์ของซีเรียเมื่อเดือน มีนาคม ที่ผ่านมา ทำให้พลเรือนเสียชีวิตไปถึง 84 ราย รวมถึงเด็กๆ จำนวนมาก

HRW แถลงว่า เครื่องบินของฝ่ายสหรัฐฯ โจมตีถูกเป้าหมาย 2 จุด ได้แก่ โรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองมันซูเราะห์ (Mansourah) ซึ่งมีพลเรือนหลายครอบครัวเข้าไปอาศัยหลบภัย ส่วนอีกจุดเป็นตลาดและร้านขายขนมปังในเมืองต็อบเกาะห์ (Tabqa)

พยานในพื้นที่ยอมรับกับ HRW ว่า มีนักรบดาอิชอยู่ที่บริเวณดังกล่าวจริง แต่ก็มีพลเรือนผู้บริสุทธิ์อยู่จำนวนมากด้วย

“ปฏิบัติการโจมตีทั้ง 2 จุดสังหารพลเรือนไปหลายสิบชีวิต รวมถึงเด็กๆ ซึ่งเข้าไปอาศัยอยู่ในโรงเรียน และคนที่กำลังต่อคิวซื้อขนมปัง” โอเล โซลวัง รองผู้อำนวยการฝ่ายสถานการณ์ฉุกเฉินของ HRW ระบุ

“หากฝ่ายพันธมิตรสหรัฐฯ ไม่ทราบว่ามีพลเรือนอยู่ในพื้นที่เหล่านั้นหรือไม่ พวกเขาก็ต้องเช็คข่าวกรองให้ดีก่อนจะระบุเป้าหมาย เพราะความสูญเสียที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย”

HRW ระบุว่า เหตุโจมตีครั้งแรกซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 มีนาคม ทำให้พลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 40 คน รวมเด็ก 16 คน ที่โรงเรียนบาเดียในเมืองมันซูเราะห์ ส่วนครั้งที่สองซึ่งเกิดขึ้นในตลาดและร้านขนมปังที่เมืองต็อบเกาะห์เมื่อวันที่ 22 มีนาคม คร่าชีวิตชาวบ้านไปอีกอย่างน้อย 44 คน รวมถึงเด็ก 14 คน

สหรัฐฯ และพันธมิตรส่งเครื่องบินโจมตีเป้าหมายที่อ้างว่าเป็นกลุ่มดาอิชมาตั้งแต่เดือน กันยายน 2014 โดยขยายปฏิบัติการออกไปจากอิรัก และตั้งแต่เดือน กันยายนปีผ่านแล้วก็ได้สนับสนุนกองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย (SDF) ซึ่งประกอบด้วยนักรบเคิร์ด-อาหรับให้บุกยึดจังหวัดร็อกเกาะห์ รวมถึงตัวเมืองร็อกเกาะห์ซึ่งถูกร้องเรียนอย่างมาก หลังกองกำลัง SDF ปฎิบัติต่อชาวบ้านอย่างป่าเถื่อน

นักเคลื่อนไหวระบุว่าปฏิบัติการนี้ทำให้ผู้บริสุทธิ์บาดเจ็บล้มตายมากอย่างที่ไม่ควรจะเป็น

สหรัฐฯ ยอมรับเมื่อเดือน สิงหาคม ว่าปฏิบัติการโจมตีในอิรักและซีเรียคร่าชีวิตพลเรือนไปทั้งสิ้น 624 คนตั้งแต่ปี 2014 แต่องค์กรสิทธิมนุษยชนเชื่อว่าตัวเลขที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านี้มาก ขณะที่ HRW ตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของระเบียบวิธีที่พันธมิตรสหรัฐฯ ใช้ประเมินตัวเลขผู้เสียชีวิต

HRW ตั้งข้อสังเกตว่า ฝ่ายสหรัฐฯ อ้างว่าได้ประเมินผลการโจมตีที่มันซูเราะห์และต็อบเกาะห์แล้ว แต่ดูเหมือนพวกเขาจะไม่เคยส่งคนลงพื้นที่หรือสัมภาษณ์พยานผู้เห็นเหตุการณ์ ทั้งที่เป้าหมายทั้ง 2 แห่งก็อยู่ภายใต้การควบคุมของ SDF มานานหลายสัปดาห์แล้ว

“ถ้าฝ่ายพันธมิตรสหรัฐฯ ได้ลงพื้นที่และคุยกับผู้เห็นเหตุการณ์จริง ก็จะพบหลักฐานหลายอย่างที่บ่งชี้ว่ามีพลเรือนถูกสังหารในปฏิบัติการครั้งนี้เป็นจำนวนมาก” โซลวัง ระบุ

ความคิดเห็น

comments