ผู้เชี่ยวชาญระบุ คลื่นยักษ์สึนามิที่ถล่มฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นเมื่อปี 2011 ได้นำพาสิ่งมีชีวิตเกือบ 300 สายพันธุ์เดินทางหลายพันไมล์ข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกมาถึงชายกฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ
ผู้เชี่ยวชาญเรียกสิ่งนี้ว่าการอพยพทางทะเลที่ยาวไกลที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกไว้ โดยประเมินว่าสิ่งมีชีวิตนับล้านได้เดินทางไกลถึง 4,800 ไมล์ ลอยไปพร้อมกับบรรดาซากปรักหักพังของสึนามิ
“นี่กลายเป็นหนึ่งในการทดลองทางธรรมชาติครั้งใหญ่ อาจจะใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์” จอห์น แชปแมน ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยโอเรกอนสเตท กล่าว
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า สิ่งของประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์จะจมลงสู่ก้นมหาสมุทรอย่างรวดเร็ว แต่บรรดาเรือชนิดต่างๆ รวมถึงสิ่งของที่ลอยน้ำได้ จะลอยออกไปสู่ท้องทะเล
ระหว่างเดือนมิถุนายน 2012 จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ของปีนี้ สิ่งมีชีวิต 289 สายพันธุ์ของญี่ปุ่นได้ติดไปกับชิ้นส่วนของซากปรักหักพังราว 600 ชิ้น เกยตื้นอยู่ที่ชายหาดในรัฐวอชิงตัน รัฐโอเรกอน รัฐแคลิฟอร์เนีย รัฐอลาสกา รัฐฮาวาย รวมถึงที่บริติชโคลัมเบียของแคนาดา
ทั้งนี้ มีประมาณ 2 ใน 3 ของสิ่งมีชีวิตพวกนั้นที่ไม่เคยถูกพบเห็นในแถบชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ
สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นที่ถูกพบในชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ ล้วนติดไปกับทุ่น เรือ ลังไม้ หรือสิ่งของที่ทำจากพลาสติก ไฟเบอร์กลาส รวมถึงวัสดุอื่นๆ ที่ไม่เน่าเปื่อย
ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า มันจะต้องใช้เวลาหลายปีถึงจะบอกได้ว่าสิ่งมีชีวิตพวกนี้ที่ย้ายมาอยู่ชายฝั่งตะวันตกจะเป็นภัยคุกคามต่อสัตว์น้ำในท้องถิ่นหรือไม่
ที่มา MGR Online