บทพิสูจน์เขตปลอดภัยของตุรกี และรัสเซีย หลังการพบการพบกันของ 2 ผู้นำในตุรกี พร้อมประกาศตั้งเขตปลอดภัยในจังหวัดอิดลิบ แต่ล่าสุดพลเรือนอีกอย่างน้อย 29 คนเป็นเหยื่อรายล่าสุดที่ต้องเสียชีวิตการโจมตีทางอากาศ ในเขตปลอดภัยแห่งหนึ่ง ตามการเปิดเผยของกลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนซีเรียในวันเสาร์ (30 กันยายน)
เด็ก 6 คน และสตรี 7 คนรวมอยู่ในหมู่ผู้เสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศครั้งนี้ที่เมืองอมานาซในจังหวัดอิดลิบใกล้ชายแดนตุรกี กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนซีเรีย (Syrian Observatory for Human Rights) กล่าว
SOHR ยังรายงานก่อนหน้านี้ว่า มีผู้เสียชีวิต 12 คนในการโจมตีดังกล่าวที่เมืองฮาเรมห่างจากเมืองเอกจังหวัดอิดลิบไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 20 กิโลเมตร
ทั้งนี้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ปฎิบัติการโจมตีทางอากาศของรัสเซีย และระบอบบาชาร์ อัล-อัสซาด แต่การโจมตีที่เกิดขึ้นล่าสุด หลังจากที่ประธานาธิบดีรัสเซียเดินทางเยือนตุรกี พร้อมประกาศความร่วมมือในการจัดตั้งเขตปลอดภัยขึ้นในจังหวัดอิดลิบ โดยจะมีกำลังทหารทำหน้าที่สังเกตุการณ์ลดการปะทะรุนแรงนั้น ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเป็นปฎิบัติการของเครื่องบินรบรัสเซียหรือไม่
ปฏิบัติการทิ้งระเบิดที่หนักที่เกิดขึ้น ยังได้พุ่งเป้าไปที่โรงพยาบาลหลายแห่งในพื้นที่จนต้องปิดให้บริการ ตามแถลงการณ์ขององค์การแพทย์ไร้พรมแดน (Doctors Without Borders (MSF) กล่าวเมื่อวันศุกร์ (29)
เมื่อวันพฤหัสบดี (28) ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียและประธานาธิบดี รอยับ ตอยยิป แอร์โดกัน ของตุรกีประกาศร่วมกันในการจัดตั้งเขตปลอดภัยในจังหวัดอิดลิบซึ่งปกครองโดยฝ่ายต่อต้านซีเรีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงใหญ่ที่บรรลุเมื่อเดือนพฤษภาคม
เขตปลอดภัยอีกสามแห่งถูกจัดตั้งขึ้นแล้วในฆุตเฎาะตะวันออกใกล้ดามัสกัส พื้นที่ตอนใต้บางส่วน และพื้นที่บางส่วนของจังหวัดฮอมส์ทางตอนกลางของประเทศ
ทั้งนี้นอกจากจังหวัดอิดลิบพื้นที่ปลอดภัยล่าสุดที่ถูกโจมตีแล้ว ฆุตเฎาะตะวันออก ดินแดนที่ถูกปิดล้อมโดยระบอบบาชาร์ อัล-อัสซาด ซึ่งเป็นหนึ่งในเขตปลอดภัย องค์กรแพทย์ซีเรีย-อเมริกัน ก็เปิดเผยว่าศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพดูแลผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตี ก็ตกเป็นเป้าโจมตีทางอากาศด้วยเช่นกัน