เครื่องบินรบรัสเซียล็อกเป้าโจมตีเรือเล็กที่ขนพลเรือนซีเรียข้ามแม่น้ำยูเฟรตีสเพื่อหนีตายจากการสู้รบที่จังหวัดเดอีร์เอซซอร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 60 ราย ตามการเปิดเผยของกลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนซีเรียเมื่อค่ำวันพุธ (4 ตุลาคม)
เครื่องบินรบรัสเซียทิ้งระเบิดใส่เรือยางและเรือเล็กที่ขนครอบครัวชาวซีเรียหลายสิบชีวิตออกจากเมือง อัล-อาชารา บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรตีส และอยู่ทางตอนใต้ของเมืองเดอีร์เอซซอร์ซิตี
เมือง หมู่บ้าน และฟาร์มเกษตรที่ตั้งอยู่ตลอดแนวฝั่งแม่น้ำยูเฟรตีสใกล้พรมแดนอิรัก กำลังกลายเป็นศูนย์กลางการสู้รบในสงครามกลางเมืองซึ่งยืดเยื้อเข้าสู่ปีที่ 7 จากการโจมตีอย่างหนักหน่วงของทั้งกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย และสหรัฐอเมริกา
“เครื่องบินรัสเซียลงมือโจมตีซ้ำอีกครั้งใส่เรือที่กำลังล่องข้ามแม่น้ำ ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มจำนวนมาก รวมถึงคนที่พยายามเข้าไปช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากการยิงถล่มครั้งแรก” อับดุลเลาะห์ อัล อาไคดัต ผู้นำชนเผ่าจากเมือง อัล-อาชารา ทางตอนเหนือของซีเรียซึ่งติดต่อกับญาติในพื้นที่ ระบุ
รัสเซียได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเพื่อสนับสนุนกองกำลังซีเรียที่ปฎิบัติการโจมตีกลุ่มดาอิชในจังหวัดเดอีร์เอซซอร์ที่อยู่ติดอิรัก โดยมีกลุ่มนักรบชาวเคิร์ดที่มีสหรัฐฯสนับสนุน บุกโจมตีเมืองดังกล่าวเช่นกันจากทางตอนเหนือ และทั้งฝ่ายมีการโจมตีใส่กันและกันด้วย
ปีที่แล้ว เครื่องบินฝ่ายพันธมิตรสหรัฐฯ ได้ทิ้งระเบิดทำลายสะพานที่เชื่อมหมู่บ้านทางตะวันออกเฉียงเหนือของแม่น้ำยูเฟรตีสกับเมืองซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม โดยหวังตัดเส้นทางลำเลียงของกลุ่มติดอาวุธ แต่นั่นก็ส่งผลให้ชาวบ้านธรรมดาสัญจรไปมาลำบากขึ้น ต้องหันมาใช้เรือข้ามฟาก ทั้งยังทำให้ราคาสินค้าและอาหารแพงขึ้นตามไปด้วย
เวลานี้กลุ่มติดอาวุธที่สนับสนุนระบอบการปกครองบาชาร์ อัล-อัสซาดกำลังมุ่งหน้าต่อไปยังเมืองมายาดีน (Mayadeen) ซึ่งอยู่ห่างจากเดอีร์เอซซอร์ซิตีไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 44 กิโลเมตร โดยเมืองแห่งนี้เป็นฐานที่มั่นหลักแห่งหนึ่งของดาอิช และเคยตกเป็นเป้าหมายของฝ่ายพันธมิตรสหรัฐฯ ซึ่งยกระดับการโจมตีเมืองและหมู่บ้านในเขตหุบเขายูเฟรตีสตั้งแต่ต้นปีนี้
ศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรีย ระบุว่า ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของรัสเซียที่จังหวัดเดอีร์เอซซอร์ทวีความหนักหน่วงขึ้นในช่วงไม่กี่วันมานี้ โดยมีรายงานพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 185 คนในเวลาเพียง 5 วัน รวมถึงผู้หญิงและเด็กอย่างน้อย 45 คน
รัสเซียปฏิเสธข้อมูลของนักสิทธิมนุษยชนที่ระบุว่าปฏิบัติการทางอากาศของรัสเซียคร่าชีวิตพลเรือนผู้บริสุทธิ์ไปหลายพันคนตั้งแต่เริ่มเข้าร่วมปฎิบัติการโจมตีแผ่นดินซีเรียซีเรียเมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งกลายเป็นจุดพลิกผันให้รัฐบาลประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ที่กำลังล่มสลายกลับมามีบทบาทสำคัญได้อีก
ด้านกลุ่มสังเกตุการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนซีเรีย และเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ในพื้นที่ระบุว่าการโจมตีของรัสเซียยังได้พุ่งเป้าโจมตี โรงพยาบาล และศูนย์ป้องกันพลเรือนหลายแห่งด้วย ขณะที่รัสเซียอ้างว่าพวกเขาโจมตีเป้าหมายที่เป็นกลุ่มก่อการร้าย พร้อมกล่าวหาว่าหน่วยแพทย์ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยทั้งหลายที่คอยช่วยเหลือพลเรือนซีเรียที่ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของรัสเซียเหล่านี้คือผู้ก่อการร้าย
