ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาเสียชีวิตอย่างน้อย 12 ราย และสูญหายอีกจำนวนมาก หลังเรือพลิกคว่ำก่อนถึงฝั่งบังกลาเทศเมื่อวันอาทิตย์ (8 ดุลาคม) ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่รักษาชายฝั่ง และรักษาชายแดนบังกลาเทศ เป็นสัญญาณความรุนแรงในรัฐยะไข่ที่ยังคงไม่ยุติ

เจ้าหน้าที่บังกลาเทศระบุว่า เรือที่เต็มไปด้วยผู้โดยสารนับร้อยคนเกิดอับปางลงในคืนวันอาทิตย์ (8) บริเวณปากแม่น้ำนาฟ ที่กั้นกลางระหว่างพม่าและบังกลาเทศ

เจ้าหน้าที่ของหน่วยรักษาชายแดนบังกลาเทศ (BGB) กล่าวว่า ในปฏิบัติการช่วยเหลือกู้ภัยที่เกิดขึ้นตลอดคืนสามารถกู้ศพได้ 12 ศพ เป็นเด็ก 10 ศพ หญิงชรา 1 ศพ และผู้ชาย 1 ศพ โดยเรือลำเกิดเหตุนั้นคาดว่ามีผู้โดยสารเป็นชาวมุสลิมโรฮิงญาที่หนีตายออกจากหมู่บ้านในรัฐยะไข่ราว 100 คน เป็นผู้ใหญ่ประมาณ 40 คน ส่วนที่เหลือเป็นเด็ก

เรือของหน่วยรักษาชายฝั่งสามารถช่วยเหลือชาวโรฮิงญาไว้ได้ 13 คน หลังออกค้นหาบริเวณปากแม่น้ำนาฟ และคาดว่าตั้งแต่เรือพลิกคว่ำ อาจมีหลายคนว่ายกลับไปทางฝั่งพม่า ขณะที่สื่อท้องถิ่นรายงานอ้างคำกล่าวของผู้รอดชีวิตว่าเรือพลิกคว่ำเพราะคลื่นสูงและสภาพอากาศไม่ดี

ชาวโรฮิงญาเกือบ 520,000 คน หลบหนีจากรัฐยะไข่ไปบังกลาเทศตั้งแต่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา หลายคนเดินเท้าหลายวันผ่านป่าหนาทึบก่อนโดยสารเรือข้ามแม่น้ำนาฟมาบังกลาเทศ

ชาวโรฮิงญาประมาณ 150 คน ที่หลายคนเป็นเด็ก จมน้ำเสียชีวิตขณะพยายามเดินทางมาถึงฝั่งบังกลาเทศด้วยเรือประมงลำเล็ก ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่าไม่แข็งแรงพอที่จะฝ่าคลื่นลมรุนแรงในทะเลได้

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คาดว่ามีผู้ลี้ภัยโรฮิงญามากกว่า 60 คน เสียชีวิตหลังเรือที่โดยสารมาจากพม่าพลิกคว่ำในอ่าวเบงกอลไม่ไกลจากชายฝั่งบังกลาเทศ

นางอองซาน ซูจีบอกก่อนหน้านี้ว่าความรุนแรงในพื้นที่ยุติลงแล้วตั้งแต่ 5 กันยายนที่ผ่านมา แต่ทว่าในความเป็นจริงยังคงมีรายงานการเผาหมู่บ้านชาวโรฮิงญา และยังคงมีชาวโรฮิงญาจำนวนมากทยอยออกจากพื้นที่มายังบังกลาเทศอย่างต่อเนื่อง

ความคิดเห็น

comments

By admin