ชาวพม่าหัวรุนแรงหลายร้อยคนชุมนุมประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลพม่าปฎิเสธการรับชาวมุสลิมโรฮิงญากว่า 600,000 คน ที่หลบหนีไปบังกลาเทศ นับตั้งแต่ 25 สิงหาคม เพื่อหลบหนีตายจากความรุนแรงในรัฐยะไข่ ของพม่า
การประท้วงเกิดขึ้นในเมืองสิตตะเว เมืองเอกของรัฐยะไข่ ที่ชาวโรฮิงญาจำนวนมากอาศัยอยู่ก่อนเหตุความรุนแรงระหว่างชุมชนปะทุขึ้นในปี 2555 ที่ส่งผลให้ชาวโรฮิงญาจำนวนมากต้องหลบหนีออกจากบ้านเรือน
อ่อง เต ผู้จัดการการชุมนุมประท้วงครั้งนี้กล่าวว่า ผู้ที่เป็นพลเมืองพม่าเท่านั้นจะได้รับการต้อนรับ
พม่าไม่ยอมรับว่าชาวโรฮิงญาเป็นหนึ่งในกลุ่มชาติพันธุ์ของประเทศ และยืนยันว่าคนเหล่านี้คือชาวเบงกาลี ที่อพยพมาจากบังกลาเทศและอาศัยอยู่ในพม่าอย่างผิดกฎหมาย
ชาวโรฮิงญามากกว่า 603,000 คน จากตอนเหนือของรัฐยะไข่ ได้หลบหนีไปบังกลาเทศตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม เมื่อกองกำลังรักษาความมั่นคงพม่าเริ่มดำเนินการปราบปรามอย่างรุนแรงและเผาหมู่บ้านโรฮิงญา ซึ่งทหารอ้างว่าเป็นการตอบโต้การโจมตีของกลุ่มก่อการร้ายโรฮิงญา แต่สหประชาชาติกล่าวว่าการดำเนินการของทหารนั้นเป็นการตอบโต้ที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ และเป็นการกวาดล้างทางชาติพันธุ์
รัฐบาลของนางอองซานซูจีกล่าวเมื่อต้นเดือนว่า รัฐบาลประสงค์ที่รับผู้ลี้ภัยโรฮิงญาที่หลบหนีไปยังกลาเทศที่เป็นชาวพม่ากลับประเทศ และรัฐบาลเห็นชอบที่จะตั้งกลุ่มทำงานร่วมเพื่อเริ่มกระบวนการส่งตัวผู้ลี้ภัยกลับ
ในวันอาทิตย์ (22) ผู้ชุมนุมประท้วงรวมทั้งพระสงฆ์ได้เรียกร้องไม่ให้รัฐบาลรับผู้ลี้ภัยกลับเข้าประเทศ
“ผู้จัดการชุมนุมประท้วงได้ยื่นขออนุญาตเพื่อให้ประชาชนนับพันคนเข้าร่วมในการชุมนุมครั้งนี้ แต่มีเพียงไม่กี่ร้อยคนที่มาร่วม” โซ ติน ส่วย เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น กล่าว
แต่ที่กรุงเนปีดอ เมืองหลวงของพม่า กลับมีประชาชนหลายพันคนรวมตัวกันเพื่อให้การสนับสนุนนางอองซานซูจีและรัฐบาลในการจัดการกับวิกฤติโรฮิงญาที่เกิดขึ้น
https://www.youtube.com/watch?v=EmMrYny4MEA