กลุ่มขวาจัดอเมริกันหลักร้อยประท้วงต้านรับตัวผู้อพยพในรัฐเทนเนสซี

กลุ่มขวาจัดหัวรุนแรงไวท์สุพรีมาซีสต์ หรือกลุ่ม White Lives Matter ที่ออกมาเรียกร้องปกป้องสิทธิอเมริกันผิวขาว เคียงข้างกับกลุ่มนาซีใหม่แบบไหล่ชนไหล่ รวมตัวราว 300 คน จัดการประท้วงต้านการอนุญาตให้กลุ่มผู้อพยพเดินทางเข้ามาปักหลักในสหรัฐฯ โดยเป็นการประท้วงที่ถูกจัดขึ้นในรัฐเทนเนสซี

รอยเตอร์รายงานเมื่อวันเสาร์(28 ตุลาคม)ว่า กลุ่มไวท์สุพรีมาซิสต์ (White Supremacist) และกลุ่มนาซีใหม่ร่วม 300 คนได้เปิดฉากการประท้วงต้านการรับเข้ามาของกลุ่มผู้อพยพที่เมืองเชลบีวิล(Shelbyville) และเมืองเมอร์ฟรีสโบโร(Murfreesboro) ที่มีผู้จัดการประท้วงเกี่ยวข้องกับการเดินขบวนรัฐเวอร์จิเนียก่อนหน้า และนำมาสู่ความรุนแรงในภายหลัง

การประท้วงของกลุ่มชาตินิยมผิวขาว และนีโอนาซีเกิดขึ้นในวันเสาร์(28) ตามรายงานของรอยเตอร์

ซึ่งการประท้วงเริ่มต้นจากเมืองเชลบีวิลก่อนที่จะเดินทางไปอีก 35 ไมล์ทางเหนือเพื่อไปยังเมืองเมอร์ฟรีสโบโร อันเป็นการเดินขบวนรอบที่ 2

ทั้งนี้พบว่าเมืองทั้ง 2 แห่งตั้งอยู่ใกล้กับเมืองแนชวิล รัฐเทนเนสซี ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการตั้งหลักแหล่งของผู้อพยพจากโซมาเลีย อิรัก และที่อื่นๆ ที่เข้ามาผ่านทางรัฐบาลกลางสหรัฐฯ

ด้านแบรด กริฟฟิน (Brad Griffin) สมาชิกกลุ่มลีกส์ทางใต้(League of the South)ได้ประกาศจุดยืนว่า “ทางเราไม่ต้องการให้รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ทิ้งคนเหล่านี้ไว้ที่ใจกลางรัฐเทนเนสซี” ชายผู้มีแนวคิดเหยียดผิวรายนี้มีจุดประสงค์ต้องการสร้างรัฐเฉพาะคนผิวขาวขึ้นในอเมริกา

การจัดงานเกิดขึ้นด้วยฝีมือของกลุ่มนีโอนาซีหรือ เนชันแนล ฟรอนต์ โคอาลิชัน (Nationalist Front coalition)

โดยตำรวจเมืองเชลบีวิลได้ตั้งรั้วกั้นเพื่อแยกกลุ่มไวท์สุพรีมาซิสต์ออกมาจากกลุ่มต่อต้านการเหยียดผิวที่ปักหลักรอ และใครก็ตามที่ต้องการเข้าไปในพื้นที่อ่อนไหว ต้องได้รับการตรวจค้น ส่วนอาวุธปืน ท่อนไม้ และสิ่งอื่นที่อาจถูกใช้แทนอาวุธถูกห้ามนำเข้า

รอยเตอร์รายงานว่า กองทัพโล่สีขาวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเส้นกากบาทสีแดงเป็นจุดแยกระหว่าง 2 กลุ่มออกจากกัน ซึ่งพบว่าในการเดินขบวนของกลุ่มต่อต้านไวท์สุพรีมาซิสต์ มีการนำป้ายข้อความเป็นต้นว่า “ไม่ควรเกลียดชัง” หรือ “ทหารผ่านศึกเพื่อสันติ”

รอยเตอร์รายงานว่า สมาชิกบางคนของไวท์สุพรีมาซิสต์ได้แสดงท่าเคารพนาซีของฮิตเลอร์ออกมาในระหว่างการประท้วงเป็นสัญลักษณ์ แห่งความรุนแรงที่สร้างความฮือฮาให้กับผู้พบเห็น

และในจุดที่ 2 ที่เมืองเมอร์ฟรีสโบโร พบว่าผู้ประท้วงถูกห้ามนำโล่ หน้ากาก หรือแม้แต่หมวกนิรภัยเข้าไป แต่ในทวิตเตอร์ของทางเมืองเมอร์ฟรีสโบโรชี้ว่า เป็นการประท้วงที่อยู่ในความสงบ และไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น

ในขณะที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและผู้นำศาสนาของท้องถิ่นได้ออกมาประณามการเดินขบวนต้านผู้อพยพของกลุ่มไวท์สุพรีมาซิสต์และกลุ่มนีโอนาซี

โดยเกรงว่า การรวมตัวของพวกขวาจัดอาจทำให้เกิดความเกลียดชังทางเชื้อชาติ ศาสนา และความต่างของที่มา เกิดขึ้นภายในรัฐทางใต้แห่งนี้

โดยในช่วงเวลา 15 ปีที่ผ่านมา มีผู้อพยพจำนวน 18,000 คนได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ภายในรัฐเทนเนสซี ถือเป็นจำนวนที่ต่ำกว่า 1% ของจำนวนประชากรทั้งหมดของรัฐด้วยซ้ำ อ้างอิงข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นรัฐเทนเนสซี

ทั้งนี้พบว่าภายใต้รัฐบาลทรัมป์ใหม่ รัฐเทนเนสซีได้ยื่นเรื่องต่อศาลฟ้องรัฐบาลกลางสหรัฐฯ อ้างว่าถูกบังคับให้ต้องจ่ายเงินให้กับการเข้ามาตั้งถิ่นฐานของบรรดาผู้อพยพ ซึ่งถือเป็นรัฐแรกที่ได้ยื่นเรื่องต่อศาลโดยใช้สิทธิ์ตามการแก้ไขครั้งที่ 10 ( the 10th Amendment) ที่มีการจำกัดอำนาจรัฐบาลกลางสหรัฐฯที่ได้ให้ไว้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐอื่นๆได้ยื่นเรื่องฟ้องต่อศาลเช่นกันแต่ด้วยเหตุผลอื่น

ตั้งแต่ทรัมป์ขึ้นมามีอำนาจ เขาได้ใช้อำนาจทางประธานาธิบดีออกคำสั่งห้ามการเดินทางเข้าสหรัฐฯจากประชาชนใน 6 ประเทศมุสลิม และล่าสุดพบว่า “ประเทศชาด” กลายเป็นประเทศล่าสุดที่อยู่ภายใต้การแบนของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ทั้งๆที่ชาดถือได้ว่าให้ความร่วมมือต้านการก่อการร้ายกับอเมริกามาโดยตลอด

ด้านเดอะการ์เดียน รายงานไว้เมื่อวันที่ 18 ตุลาคมว่า การที่ชาดอยู่ในรายชื่อด้วยเป็นเพราะ “ประเทศนี้มีปัญหาขาดกระดาษสำหรับจัดทำหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ต”

ความคิดเห็น

comments