เพลงทหารถูกขับร้องดังทั่วนครย่างกุ้งวันอาทิตย์ (29) เมื่อประชาชนหลายหมื่นคนเดินขบวนสนับสนุนกองทัพพม่า จากปฎิบัติการปราบปรามชาวโรฮิงญา ที่สหประชาชาติระบุว่าเป็นการกวาดล้างชาติพันธุ์
ชาวโรฮิงญามากกว่า 600,000 คน ได้หนีตายจากการปราบปรามรุนแรงที่เกิดขึ้นจากรัฐยะไข่ ไปบังกลาเทศนับตั้งแต่ 25 สิงหาคม หลังทหารพม่าอ้างเหตุกลุ่มนักรบโรฮิงญาโจมตีด่านตรวจ เป็นจุดเริ่มต้นปฎิบัติการปราบปรามรุนแรงต่อชาวโรฮิงญา ที่สหประชาชาติเรียกว่าเป็นการกวาดล้างชาติพันธุ์
เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับ พล.อ.อาวุโส มิน ออง หล่าย เมื่อต้นสัปดาห์เพื่อแสดงความวิตกถึงข้อกล่าวหาการกระทำทารุณโหดร้ายในรัฐยะไข่และเรียกร้องการเดินทางกลับประเทศอย่างปลอดภัยสำหรับชาวโรฮิงญา
แต่เหตุการเดินขบวนที่เกิดขึ้นในย่างกุ้ง เมืองหลวงเก่าของพม่า เมื่อประชาชน และพระสงฆ์ ร่วมกันออกมาเดินขบวนไปบนพื้นถนนเพื่อสนับสนุนกองทัพพม่า ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตลอดการปกครองพม่ากว่า 50 ปี กองทัพเป็นหน่วยงานที่ประชาชนเกลียดชัง และเดินขบวนประท้วงเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยอยู่บ่อยครั้ง
ผู้ชุมนุมต่างถือป้ายที่ถูกจัดเตรียมไว้ในการยกย่อง พล.อ.อาวุโส มิน ออง หล่าย และกล่าวตำหนิประชาคมโลกที่กดดันกองทัพพม่า
“ทัตมะดอว์ (กองทัพพม่า) เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับประเทศ กองทัพปกป้องกลุ่มชาติพันธุ์ เชื้อชาติ และศาสนาของเรา” นาน เอ เอ จี อายุ 54 ปี กล่าวขณะร่วมเดินขบวนผ่านเจดีย์สุเล
โรฮิงญาไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มชาติพันธุ์ของประเทศ
กอ ตัน อายุ 64 ปี นายทหารเกษียณราชการที่รับใช้กองทัพมานาน 41 ปี กล่าวว่า กองทัพพม่ากำลังปกป้องทั้งประเทศ ข้อกล่าวหาเรื่องการข่มขืน การสังหาร และวางเพลิงกับชาวโรฮิงญานั้นไม่เป็นเรื่องจริง