กลุ่มธนาคารซิตี้กรุ๊ป และทวิตเตอร์มีสิทธิ์ร่วง หลังจากหุ้นบริษัท คิงดอม โฮลดิงส์ (Kingdom Holding Co) ตกลงทันทีในวันอาทิตย์ (5 พฤศจิกายน) เมื่อ เจ้าชายอัลวาลิด บิน ตาลัล (Al-Waleed bin Talal) ผู้เป็นเจ้าของ ถูกจับกุมตามมาตรการปรามคอรัปชั่นของซาอุดิอาระเบีย
CNBC ของสหรัฐฯ รายงานเมื่อวันอาทิตย์ (5) ว่า จากการให้สัมภาษณ์ของเจ้าชายอัลวาลิด บิน ตาลัล (Al-Waleed bin Talal) เมื่อเดือนที่ผ่านมาได้เปิดเผยว่า เขาได้ลงทุนในนบริษัทชั้นนำโลกตะวันตกผ่านบริษัทการลงทุน คิงดอม โฮลดิงส์ (Kingdom Holding Co) ของตน รวมทั้งบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง ซิตี้กรุ๊ป ทวิตเตอร์ และทเวนตี้-เฟิสต์เซนจูรี ฟ็อกซ์ (Twenty-First Century Fox) ของรูเพิร์ต เมอร์ด็อกส์
CNBC รายงานว่า เจ้าชายถือหุ้นของทวิตเตอร์ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของทั้งหมด
CNBC วิเคราะห์ว่า ผลจากข่าวการที่ เจ้าชายอัลวาลิด บิน ตาลัล ถูกจับในมาตรการกวาดล้างคอรัปชั่น อาจทำให้หุ้นบริษัทชั้นนำเหล่านี้ตกอยู่ใต้ภาวะแรงกดดัน ด้วยความกลัวในอนาคตของบริษัทการลงทุนคิงดอม โฮลดิงส์ ของเจ้าชาย และแผนการลงทุนของทางบริษัทในอนาคต
ด้าน AP รายงานว่า หุ้นของบริษัท คิงดอม โฮลดิงส์ ตกลงทันที 7.6% ในวันอาทิตย์ (5) ที่ตลาดการซื้อขายซาอุดีอาระเบีย หลังการจับกุม ถึงแม้ว่าในเวลานี้ทางการซาอุฯจะออกแถลงว่า ยังไม่มีการยึดทรัพย์เกิดขึ้นก็ตาม
CNBC ชี้ว่า ในเวลานี้เชื่อว่าหุ้นของซิตี้กรุ๊ป และทวิตเตอร์อาจจะยังไม่ได้รับความเสียหายจากข่าวการจับกุม อย่างน้อยในเวลานี้
ด้าน คิง ลิป (King Lip) นักวิเคราะห์หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนบริษัท เบเกอร์ อเวนิว แอสเซต แมเนจเมนต์ (Baker Avenue Asset Management) กล่าวให้ความเห็นว่า “ผมคิดว่าในบางสถานะที่ทางเจ้าชายได้ทรงถือไว้ อาจอยู่ภายใต้ความกดดัน”
และเสริมว่า “แต่ผมไม่เห็นถึงผลกระทบระยะยาวที่จะเกิดขึ้นเนื่องมาจากสิ่งนี้ เพราะนี่เหมือนเป็นการกระชับอำนาจทางการเมืองขององค์มกุฎราชกุมารซาอุฯ มากกว่าที่จะเป็นการกวาดล้างการคอรัปชั่นในความรู้สึกของผม”
CNBC ยังได้เปรียบเทียบไปถึงกรณีผู้บริหารกลุ่มเฮดจ์ฟันด์ของวอลล์สตรีท หากเกิดถูกจับโดยคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ SEC ผลก็คือบริษัทโฮลดิงส์จะล้มทันที เพราะกลุ่มนักซื้อขายจะวิตกว่าอาจมีการถูกบังคับขายออกมาหลังจากนั้น
นอกจานี้ CNBC ยังวิเคราะห์ว่า การดำเนินการดังกล่าวกับบริษัท คิงดอม โฮลดิงส์ อาจไม่ง่าย ประการแรก เป็นเพราะเกี่ยวข้องกับซาอุดีอาระเบีย และประการที่สอง การลงทุนของเจ้าชายอัลวาลิด บิน ตาลัล ผู้เป็นเจ้าของ บริษัท คิงดอม โฮลดิงส์ เป็นการลงทุนที่ไม่เป็นที่เปิดเผยต่อสาธารณะ
ในการให้สัมภาษณ์ของเจ้าชายอัลวาลิด บิน ตาลัลกับ CNBC ในวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา พระองค์ยืนยันว่า พระองค์ยังคงถือหุ้นของทวิตเตอร์อยู่ แต่เป็นจำนวนเท่าไหร่ เป็นสิ่งที่สาธารณะไม่อาจรู้ได้
ขณะที่ InsiderScore.com รายงานว่า หุ้นที่เจ้าชายอัลวาลิด บิน ตาลัล ถืออยู่ในทวิตเตอร์นั้นใหญ่เป็นอันดับ 5 ของทั้งหมดในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ซึ่งอ้างอิงจากเดือนธันวาคม 2016 ที่พบว่า เจ้าชายถือในสัดส่วน 4.9%
ในการให้สัมภาษณ์กับ CNBC ยังพบว่า เจ้าชายนักลงทุนยังทรงถือหุ้นของกลุ่มธนาคารซิตี้กรุ๊ปด้วย ซึ่งพบว่ามีการถือมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1991 โดยไม่ทราบจำนวนหุ้นที่ถืออย่างแน่ชัด
แม้เจ้าชายอัลวาลิด บิน ตาลัล จะยังไม่ถูกตั้งข้อกล่าวหาในมาตรการปราบคอรัปชั่น แต่มีการสงสัยที่อาจเกี่ยวพันไปถึงธุรกิจฟอกเงิน
