บ็อบ เกลดอฟ นักดนตรีชาวไอริช และผู้จัดคอนเสิร์ตการกุศลไลฟ์เอด (Live Aid) ส่งคืนรางวัลเสรีภาพแห่งกรุงดับลิน ในวันจันทร์ (13 พฤศจิกายน) เพื่อประท้วงการจัดการเกี่ยวกับปัญญาโรฮิงญาของนางอองซาน ซูจี ผู้นำพม่า ที่ฐานะผู้ได้รับรางวัลเดียวกัน
บ็อบ เกลดอฟ ออกมากล่าวตำหนิอองซาน ซูจี ผู้ครองรางวัลโนเบลสันติภาพถึงการปฏิบัติต่อชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมโรฮิงญา และเรียกซูจีว่าเป็นผู้รับใช้การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
“ความสัมพันธ์ของเธอกับเมืองของเราทำให้เราทุกคนต้องอับอาย และเราไม่ควรต้องติดอยู่กับเรื่องนี้ เรายกย่องเธอ แต่ตอนนี้เธอทำให้เรารู้สึกอับอาย” เกลดอฟ กล่าว
“ผมไม่ขอเกี่ยวข้องไม่ว่าทางใดก็ตามกับผู้ที่มีส่วนในการกวาดล้างชาติพันธุ์ชาวโรฮิงญา” เกลดอฟ กล่าวเสริม
ชาวมุสลิมโรฮิงญาจากรัฐยะไข่ของพม่ากว่า 600,000 คน ต้องหนีไปหลบภัยยังค่ายผู้ลี้ภัยในบังกลาเทศ หลังปฏิบัติการกวาดล้างทางทหารที่สหประชาชาติระบุว่าเป็นการกวาดล้างชาติพันธุ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา แม้ซูจีจะออกมาประกาศว่าความรุนแรงยุติลงแล้วตั้งแต่ 5 กันยายน แต่การอพยพ และการเผา โจมตี ขับไล่ชาวโรฮิงญายังเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยมองเห็นกลุ่มควันได้จากฝั่งของบังกลาเทศ
การอพยพของชาวโรฮิงญากว่าครึ่งล้านคนก่อให้เกิดกระแสความไม่พอใจจากทั่วโลกและเรียกร้องการปลดรางวัลโนเบลสันติภาพของนางอองซาน ซูจีจากการไม่กล่าวประณามปฏิบัติการกวาดล้างอันโหดร้ายของทหาร แต่ทางคณะกรรมการรางวัลโนเบลชี้แจ้งว่าไม่มีระเบียบการถอนรางวัลคืน
“ผมภูมิใจมากที่เป็นคนดับลิน แต่ก็ไม่สามารถที่จะเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับเกียรติเพียงไม่กี่คนที่ได้รับมอบรางวัลทรงคุณค่านี้ ในขณะที่นางอองซานซูจียังคงเป็นหนึ่งในจำนวนนั้น” เกลดอฟระบุ
ซูจีได้รับรางวัลเสรีภาพแห่งกรุงดับลินเมื่อครั้งที่ถูกรัฐบาลทหารควบคุมตัวในบ้านพักในปี 2542 และซูจีได้เดินทางมารับรางวัลดังกล่าวที่ไอร์แลนด์ในปี 2555 หลังได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระมาแล้ว 2 ปี
สำหรับชาวต่างชาติที่ได้รับรางวัลเสรีภาพแห่งกรุงดับลิน นับตั้งแต่มีการมอบรางวัลครั้งแรกในปี 2419 ประกอบด้วย ประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี้ ประธานาธิบดีเนลสัน แมนเลดา และประธานาธิบดีมิคาอิล กอร์บาชอฟ
