Mohammad Ali Jafari ผู้บัญชาการทหารของกองกำลังพิทักษ์การปฎิวัติอิหร่าน ที่มีบทบาทสำคัญในสงครามรุนแรงในซีเรียได้ออกมาประกาศผ่านทางทีวีระบุว่า การติดอาวุธของกลุ่มฮิสบุลลาตในเลบานอนไม่สามารถต่อรองได้ นับเป็นการเคลื่อนไหวล่าสุดของอิหร่านหลังจากนายกรัฐมนตรีเลบานอนเดินทางกลับประเทศเพื่อแก้ไขวิกฤติทางการเมืองที่เกิดจากการแทรกแซงของอิหร่านในการสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธฮิสบุลลาตในเลบานอน
MEMO รายงานจากสถานีโทรทัศน์ระบุว่า Mohammad Ali Jafari ผู้บัญชาการทหารของกองกำลังพิทักษ์การปฎิวัติอิหร่าน กล่าวท่ามกลางวิกฤติทางการเมืองของเลบานอนว่า “ฮิสบุลลาตต้องติดอาวุธเพื่อต่อสู้กับศัตรูของประเทศเลบานอนซึ่งเป็นอิสราเอล โดยธรรมชาติพวกเขาควรมีอาวุธที่ดีที่สุดเพื่อปกป้องความปลอดภัยของเลบานอน ปัญหานี้ไม่สามารถเจรจาต่อรองได้”
ความตึงเครียดในระดับภูมิภาคได้เพิ่มขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาระหว่างกลุ่มประเทศอาหรับที่นำโดยซาอุดิอาระเบีย และกองกำลังติดอาวุธชีอะห์ที่นำโดยอิหร่าน จากความรุนแรงที่เกิดขึ้นในซีเรีย, อิรัก, เยเมน และบะห์เรน
ซาอุดิอารเบียชี้ว่า กลุ่มติดอาวุธชีอะห์ฮิสบุลลาตในเลบานอนที่มีอิหร่านให้การหนุนหลัง ได้ลักลอบให้การสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธชีอะห์ฮูษีย์ในเยเมน ที่เพิ่งยิงขีปนาวุธนำวิถี โจมตีเมืองหลวงซาอุดิอาระเบียเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
Jafari ย้ำท่าทีของอิหร่านในโครงการขีปนาวุธแบบลับๆ ว่า โครงการขีปนาวุธของอิหร่าน มีวัตถุประสงค์ในการป้องกัน และไม่ได้ทำโครงการขึ้นเพื่อเจรจาต่อรอง
นอกจากนี้ยังอ้างว่าโครงการนี้ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงด้านนิวเคลียร์ในปี 2015 ที่ชาติตะวันตกยอมยกเลิกการคว่ำบาตรเพื่อแลกกับการที่อิหร่านระงับโครงการนิวเคลียร์ แต่ว่าเจ้าหน้าที่สหประชาชาติได้รายงานต่อคณะมนตรีความมั่นคงระบุว่าโครงการขีปนาวุธของอิหร่านเป็นการละเมิดข้อตกลงนิวเคลียร์ดังกล่าว เนื่องจากสามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้ แต่ข้อเสนอของเจ้าหน้ากลับไม่ได้รับความสนใจจากชาติสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงที่ต่างเร่งช่วงชิงผลประโยชน์จากการยกเลิกคว่ำบาตรที่มีต่ออิหร่าน