ชาวปาเลสไตน์นับหมื่นคนได้รวมตัวในฉนวนกาซาหลังสิ้นสุดการละหมาดยุมอัตในวันศุกร์ขณะที่เกิดการปะทะกันระหว่างเยาวชนนับร้อย ๆ คน และกองกำลังอิสราเอลตามพรมแดนระหว่างกาซ่ากับส่วนที่อิสราเอลยึดครอง ทำให้ชาวปาเลสไตน์อย่างน้อยสองคนถูกสังหาร และหลายสิบคนบาดเจ็บ
กองกำลัง Qassam ในสังกัดฮามาสได้จัดขบวนทางทหารที่ชายสวมหน้ากากสวมเครื่องแบบทหารถือปืนไรเฟิลและกระสุน โดยมีผู้เข้าร่วมตระโกนคำขวัญประณามการรับรองของอเมริกาที่ให้กรุงเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล และเรียกร้องให้มีการก่อลุกขึ้นเพื่อ “ปลดปล่อยกรุงเยรูซาเล็มจากการยึดครอง(ของอิสราเอล)”
Fathi Hammad สมาชิกฝ่ายการเมืองของฮามาส กล่าวกับกลุ่มผู้ประท้วงทางตอนเหนือของกาซาว่า “วันนี้เราประกาศการต่อต้านการยึดครอง และมันไม่ได้ครึ่งของการแก้ปัญหา”
“เราเรียกร้องให้ทุกคนที่เป็นอิสระในโลกคว่ำบาตรอเมริกาและอิสราเอลและเราเรียกร้องให้ประเทศอาหรับและประเทศอิสลามที่จะยืนหยัดอย่างจริงจัง และสนับสนุนคนของเรา”
เขาเสริมว่าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯในกรุงเยรูซาเล็มจะเป็น “องค์กรที่ยึดครองเช่นเดียวกับองค์กรอื่น ๆ”
นอกจากนี้เขายังเรียกร้องให้มีการกลับมาของผู้พลัดถิ่นชาวปาเลสไตน์อีกด้วย “ไม่ใช่เวลาสำหรับใครก็ตามที่เชื่อในสันติสุขที่ถูกกล่าวหานี้มานานกว่า 1 ใน 4 ของศตวรรษเพื่อกลับไปกอดคนของเขา และเข้าร่วมกับเราในร่องรอยของความต้านทาน?”
ในตะวันออกของเมืองค่านยูนุส ทางตอนใต้ของฉนวนกาซามีการปะทะกันเกิดขึ้นตามแนวชายแดนของอิสราเอล ขณะที่หนุ่มสาวชาวปาเลสไตน์ได้ก่อไฟ้ขึ้นเพื่อรบกวนวิสัยทัศน์การเมืองจากทหารอิสราเอล ด้านทหารอิสราเอลได้ยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ชาวปาเลสไตน์ ทำให้ชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 2 คนเสียชีวิต และนับสิบคนได้รับบาดเจ็บ
เจ้าหน้าที่อาวุโสปาเลสไตน์ของฮามาสกล่าวในระหว่างการเดินขบวนในเมืองกาซ่าอีกครั้งว่า “ผู้มีอำนาจของปาเลสไตน์จะต้องตัดสินใจอย่างเร่งด่วนด้วยการประกาศความล้มเหลวของสนธิสัญญาออสโล และยุติความร่วมมือในการรักษาความปลอดภัยกับอิสราเอล และเปิดทางให้มีการเดินขบวนเช่นนี้ในเวสต์แบงก์”
“ผู้นำฮามาสประกาศอิสรภาพในเวสต์แบงก์ และกรุงเยรูซาเล็มเพื่อตอบสนองต่อการตัดสินใจของประธานาธิบดีทรัมป์” เขากล่าว “กรุงเยรูซาเล็มจะยังคงเป็นเมืองหลวงของรัฐปาเลสไตน์”
“การตัดสินใจของทรัมป์ ถือเป็นการสิ้นสุดของบทบาทในการเป็นผู้ไกล่เกลี่ย สิ่งที่สหรัฐฯดำเนินการอยู่เป็นการทำลายกระบวนการสันติภาพ และทำลายการพูดคุยเกี่ยวกับข้อตกลงเพื่อสร้างสันติภาพในภูมิภาคนี้” Osama Al-Qawasmi โฆษกของฟัตตะห์ กล่าวในแถลงการณ์
ผู้ประท้วงได้กล่าวถึงประเด็นเรื่องกรุงเยรูซาเล็ม และการตัดสินใจของอเมริกันในการย้ายสถานทูต และขอเรียกร้องให้ปฏิเสธความพยายามที่จะทำร้าย “ความศักดิ์สิทธิ์ของเมือง”
ผู้ประท้วงคนหนึ่ง Ahmed Al-Aksh กล่าวว่า “ความอ่อนแอของชาวปาเลสไตน์เนื่องจากการแบ่งแยกระหว่างฟัตตะห์ กับฮามาส” สำหรับการตัดสินใจของสหรัฐ “เช่นเดียวกับความห่วงใยในประเทศอาหรับด้วยปัญหาภายใน”
Al-Aksh กล่าวอีกว่าตอนนี้ “เราต้องออกไปที่ถนนและเผชิญหน้ากับการตัดสินใจนั้น”
ที่มาอาหรับนิวส์
https://www.youtube.com/watch?v=2eQBc_QPAxM
