คลื่นที่สูงถึง 3 เมตร ซัดเศษกิ่งไม้ ขยะ และทรายจากทะเลขึ้นมาบนถนนปากพนัง-หัวไทร น้ำทะเลหนุนสูงท่วมบ้านเรือนของประชาชน ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช สั่งเฝ้าระวังสถานการณ์
วันจันทร์ (18 ธันวาคม) นายเกรียงศักดิ์ รักษ์ศรีทอง นายอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า หลายพื้นที่ที่ติดชายฝั่งอ่าวไทยของอำเภอปากพนัง ได้เกิดภาวะน้ำทะเลหนุนสูงและคลื่นลมแรงซัดเข้าหาฝั่ง ได้แก่ ตำบลท่าพญา ตำบลปากพนังฝั่งตะวันออก ตำบลแหลมตะลุมพุก เป็นต้น ได้รับผลกระทบจากคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง ส่งผลให้ท่วมขังบ้านเรือนและบ่อกุ้ง
โดยถนนปากพนัง-หัวไทร คลื่นที่สูงถึง 3 เมตร ได้ซัดเอาเศษกิ่งไม้ ขยะ และทรายจากทะเลขึ้นมาบนถนน ซึ่งแขวงทางหลวงหน้าสตน พร้อมชาวบ้านในพื้นที่ได้ช่วยกันเก็บสิ่งขีดขวางออกจากบริเวณถนนเพื่อให้รถสามารถวิ่งผ่านสัญจรไปมาได้สะดวก
นอกจากนี้ ถนนสายเกาะนางโดย-แสงวิมานระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร น้ำทะหนุนข้ามถนนสูงประมาณ 10-20 เซนติเมตร แต่รถยังสามารถผ่านไปมาได้
ด้านนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีพื้นที่ติดชายฝั่งทะเล เฝ้าระวังคลื่นลมแรงตามประกาศของศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก โดยขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งทะเล ระมัดระวังจากลมแรงและคลื่นซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระหว่างวันที่ 18-23 ธันวาคม ในส่วนของประชาชนและนักท่องเที่ยวไม่ควรลงเล่นน้ำทะเลในระยะนี้ เนื่องจากทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร โดยขอให้มีการปักธงแดงตามชายหาดที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว พร้อมทั้งให้จัดเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าระวังเหตุด้วย