กลุ่มฝ่ายต่อต้านซีเรีย 40 องกรณ์ประจุดยืนไม่ร่วมการเจรจาสันติภาพที่รัสเซียเป็นเจ้าภาพ ชี้รัสเซียต้องการล้มการเจรจาที่เจนีวา และเป็นส่วนหนึ่งของการก่ออาชญากรรมต่อชาวซีเรีย
เมื่อวันจันทร์ที่(25 ธันวาคม)แนวร่วมฝ่ายต่อต้านซีเรียได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันในการปฏิเสธเข้าร่วมเจรจาที่เมืองซูชิ ของรัสเซีย โดยระบุรัสเซียกำลังพยายามที่จะล้มล้างการเจรจาสันติภาพของสหประชาชาติที่กรุงเจนีวา และรัสเซียก็เป็นส่วนหนึ่งของการก่ออาชญากรรมสงครามต่อชาวซีเรีย
ในแถลงการณ์ที่ออกโดยแนวร่วม 40 องค์กรซึ่งรวมทั้งฝ่ายกำลังรบบางส่วนที่เข้าร่วมการเจรจาสันติภาพที่กรุงเจนีวาก่อนหน้านี้ กล่าวว่ารัสเซียไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความพยายามใดๆ ในการกดดันต่อระบอบบาชาร์ อัล-อัสซาด ให้ปฎิบัติตามข้อตกลงที่มีก่อนหน้านี้
“รัสเซียไม่ได้มีส่วนร่วมในการบรรเทาความเดือดร้อนของชาวซีเรีย และไม่ได้กดดันระบอบการปกครองบาชาร์ อัล-อัสซาด ทั้งที่อ้างตัวเป็นผู้ค้ำประกันในการแก้ปัญหาซีเรีย” แถลงการณ์ระบุ
รัสเซียซึ่งเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญในการแทรกแซงทางทหารเพื่อสนับสนุนระบอบการปกครองบาชาร์ อัล-อัสซาดเมื่อสองปีก่อน ได้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพในการเจรจาสันติภาพ โดยได้รับการสนับสนุนจากตุรกี และอิหร่าน โดยครั้งต่อไปจะจัดที่เมืองซูชิ ของรัสเซียในระหว่างวันที่ 29-30 มกราคม ปีหน้า
“รัสเซียเป็นประเทศผู้รุกรานที่ก่ออาชญากรรมสงครามต่อชาวซีเรีย … ย่อมมีจุดยืนอยู่กับระบอบการปกครองบาชาร์ อัล-อัสซาด และการคุ้มกันทางการเมือง โดยตลอดระยะเวลากว่าเจ็ดปีที่รัสเซียคอยช่วยเหลือไม่ให้บาชาร์ อัล-อัสซาด ต้องถูกลงโทษจากมติของสหประชาชาติ” คำแถลงระบุ
รัสเซียอ้างว่าการส่งเข้ากำลังเข้าไปในซีเรียเพื่อต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้าย แต่ฝ่ายประชาชนชาวซีเรียยืนยันว่าการโจมตีทางอากาศตลอดกว่า 2 ปีที่ผ่านมาของรัสเซีย ได้ก่อให้เกิดความสู้เสียอย่างหนักต่อชีวิต และทรัพย์สินของพลเรือนชาวซีเรีย โดยที่พลเรือนตกเป็นเป้าการโจมตีดังกล่าว
นอกจากนี้รัสเซียยังจะคงเพิ่มความสำคัญในการดำเนินการฐานทัพอากาศ 2 แห่งของรัสเซียในซีเรีย โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซีย Sergei Shoigu กล่าวเมื่อวันอังคาร(26)ว่ารัสเซีย จะเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นที่ฐานทัพทหารใน Tartus และ Hmeimim ในประเทศซีเรีย
สำนักข่าว RIA รายงานว่า “สัปดาห์ที่แล้วผู้บัญชาการทหารสูงสุดอนุมัติโครงสร้างและฐานใน Tartus และใน Hmeimim เพื่อดำเนินการให้เป็นฐานทัพอากาศถาวรของรัสเซียในแผ่นดินซีเรีย”